ทำไมน้ำตาไหลแล้วแสบตา

5 การดู

น้ำตาไหลแล้วแสบตาอาจเกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าตา สารเคมีระเหยในอากาศ หรือกระจกตาถลอกเล็กน้อย หากอาการไม่รุนแรง สามารถล้างตาด้วยน้ำสะอาดได้ แต่หากปวดแสบมาก ตาพร่ามัว หรือมองเห็นไม่ชัด ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมน้ำตาไหลแล้วแสบตา: ปริศนาของความรู้สึกไม่สบาย

การที่น้ำตาไหลออกมานั้นเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการปกป้องดวงตาจากสิ่งแปลกปลอมหรือการระคายเคืองต่างๆ แต่บางครั้ง การที่น้ำตาไหลกลับมาพร้อมกับความรู้สึกแสบร้อนที่ดวงตา ทำให้หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นอกเหนือจากสาเหตุที่คุ้นเคยอย่างสิ่งแปลกปลอมเข้าตาหรือสารเคมีระเหยที่เราทราบกันดีแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่อาจเป็นต้นเหตุของอาการนี้

น้ำตากับองค์ประกอบที่ซับซ้อน:

เรามักคิดว่าน้ำตาเป็นเพียงน้ำใสๆ แต่ความจริงแล้ว น้ำตามีองค์ประกอบที่ซับซ้อนกว่านั้นมาก ประกอบด้วยน้ำ เกลือแร่ ไขมัน และโปรตีนต่างๆ ในสัดส่วนที่สมดุล หากสัดส่วนขององค์ประกอบเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป ก็อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบาย เช่น แสบตาได้

  • การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของเกลือแร่: เมื่อร่างกายขาดน้ำ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง น้ำตาที่ผลิตออกมาอาจมีความเข้มข้นของเกลือแร่สูงกว่าปกติ ทำให้เกิดความรู้สึกแสบตาเมื่อน้ำตาไหล
  • การระเหยของน้ำตา: ในบางคน น้ำตาอาจระเหยเร็วเกินไป ทำให้พื้นผิวของดวงตาแห้งและระคายเคือง ร่างกายจึงตอบสนองโดยการผลิตน้ำตาออกมามากขึ้น แต่เนื่องจากน้ำตาที่ผลิตออกมานั้นอาจไม่มีองค์ประกอบของไขมันที่ช่วยเคลือบผิวตาได้ดีเท่าที่ควร จึงไม่สามารถป้องกันการระเหยได้เต็มที่ ทำให้เกิดวงจรของการผลิตน้ำตาและการระเหยที่นำไปสู่ความรู้สึกแสบตา
  • การอักเสบของเปลือกตา: การอักเสบของเปลือกตา (Blepharitis) อาจทำให้ต่อมไขมันที่เปลือกตาทำงานผิดปกติ ส่งผลให้องค์ประกอบของน้ำตาเปลี่ยนแปลงไปและทำให้เกิดอาการแสบตา

ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจทำให้แสบตาเมื่อน้ำตาไหล:

  • อาการภูมิแพ้: ภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น เกสรดอกไม้ ไรฝุ่น หรือขนสัตว์ อาจทำให้ดวงตาระคายเคืองและน้ำตาไหล ซึ่งน้ำตาที่ไหลออกมานั้นอาจทำให้เกิดความรู้สึกแสบตาได้
  • การใช้คอนแทคเลนส์: การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน หรือการทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ดวงตาแห้งและระคายเคือง รวมถึงอาจทำให้เกิดการอักเสบที่กระจกตา ซึ่งอาจทำให้แสบตาเมื่อน้ำตาไหล
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิต หรือยาแก้ซึมเศร้า อาจมีผลข้างเคียงทำให้ดวงตาแห้งและแสบตา
  • ภาวะทางสุขภาพอื่นๆ: บางภาวะทางสุขภาพ เช่น โรค Sjögren’s syndrome ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ต่อมสร้างน้ำลายและน้ำตาทำงานลดลง อาจทำให้ดวงตาแห้งและแสบตา

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์:

แม้ว่าอาการแสบตาเมื่อน้ำตาไหลมักจะไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่หากอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดตามาก ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด หรือมีขี้ตามากผิดปกติ ควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีประวัติการใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ หรือมีโรคประจำตัวอื่นๆ

สรุป:

อาการแสบตาเมื่อน้ำตาไหลนั้นอาจมีสาเหตุได้หลายประการ ตั้งแต่ปัจจัยภายนอกอย่างสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ไปจนถึงปัจจัยภายในอย่างการเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของน้ำตา การอักเสบของเปลือกตา หรือภาวะทางสุขภาพอื่นๆ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงของอาการแสบตา จะช่วยให้เราสามารถดูแลดวงตาได้อย่างเหมาะสมและป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงได้ หากคุณมีอาการแสบตาเรื้อรัง หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง