ฟอกไตกี่ครั้งถึงจะดีขึ้น

ฟอกไตถี่แค่ไหน… ถึงจะดีที่สุด? คำตอบที่ไม่ตายตัวเพื่อชีวิตที่ยืนยาว

การฟอกไต หรือ ไดอะลิซิส (Dialysis) เป็นกระบวนการสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย ที่ไตไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ การฟอกไตทำหน้าที่เสมือน “ไตเทียม” ช่วยกำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพ แต่คำถามสำคัญที่มักเกิดขึ้นคือ “ควรฟอกไตบ่อยแค่ไหนถึงจะดีที่สุด?”

คำตอบสำหรับคำถามนี้ไม่ใช่ตัวเลขตายตัวที่ใช้ได้กับทุกคน เพราะความถี่ในการฟอกไตที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล ได้แก่:

• ระยะของโรคไต: ผู้ป่วยในระยะที่แตกต่างกันจะมีความสามารถในการขับของเสียของไตที่เหลืออยู่แตกต่างกัน ทำให้ความถี่ในการฟอกไตที่เหมาะสมแตกต่างกันไปด้วย
• สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย: ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ผู้ป่วยมี เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคอื่นๆ อาจส่งผลต่อความถี่ในการฟอกไตที่จำเป็น
• ปริมาณปัสสาวะที่ยังผลิตได้: หากผู้ป่วยยังสามารถปัสสาวะได้บ้าง ร่างกายจะสามารถขับของเสียบางส่วนได้เอง ทำให้ความถี่ในการฟอกไตอาจน้อยลงได้
• น้ำหนักตัวและสัดส่วนกล้ามเนื้อ: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากหรือมีสัดส่วนกล้ามเนื้อสูง มักจะมีของเสียในร่างกายมากกว่า ทำให้ต้องการการฟอกไตที่ถี่กว่า
• ผลการตรวจเลือด: ผลการตรวจเลือดเป็นตัวบ่งชี้สำคัญที่แสดงให้เห็นถึงระดับของเสียและสารเคมีต่างๆ ในร่างกาย แพทย์จะพิจารณาจากผลการตรวจเหล่านี้เพื่อปรับความถี่ในการฟอกไตให้เหมาะสม

โดยทั่วไปแล้ว สำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ต้องฟอกไตเพื่อรักษาชีวิต มักจะได้รับการแนะนำให้ฟอกไต 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ย และแพทย์ผู้ดูแลจะเป็นผู้พิจารณาความถี่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น

ความสำคัญของการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

สิ่งสำคัญที่สุดคือการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แพทย์จะติดตามผลการรักษาและปรับความถี่ในการฟอกไตตามความจำเป็น การฟอกไตที่ถี่เกินไปหรือไม่ถี่เกินไป อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

ประโยชน์ของการฟอกไตที่เหมาะสม

การฟอกไตที่ถี่และเหมาะสมจะช่วย:

• กำจัดของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากร่างกาย: ช่วยรักษาสมดุลของร่างกาย ลดอาการบวมน้ำ และป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ
• ควบคุมความดันโลหิต: การกำจัดน้ำส่วนเกินออกจากร่างกายช่วยลดความดันโลหิต
• ลดอาการไม่พึงประสงค์: เช่น คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และหายใจลำบาก
• ปรับปรุงคุณภาพชีวิต: ช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้น

สรุป

ไม่มีจำนวนครั้งที่ตายตัวสำหรับการฟอกไตที่ “ดีที่สุด” ความถี่ในการฟอกไตที่เหมาะสมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล การปรึกษาแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ได้รับการฟอกไตที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย และช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างมีคุณภาพและยืนยาว