สิวแบบไหนที่ควรไปกด

7 การดู

ไม่ควรกดหรือบีบสิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวหนอง สิวหัวช้าง และสิวซีสต์ เพราะอาจนำไปสู่การติดเชื้อและการเกิดแผลเป็น ควรรอให้สิวยุบลงเองหรือปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากอาการไม่ดีขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สิวแบบไหนที่ควร “กด” และแบบไหนที่ควร “ปล่อย”…ให้ผู้เชี่ยวชาญดูแล

หลายคนคงเคยประสบปัญหา “สิว” กวนใจ บางทีก็อดใจไม่ไหว ต้องเผลอบีบ เผลอกด จนผิวหน้าช้ำไปหมด แต่รู้หรือไม่ว่า การจัดการกับสิวแต่ละชนิดนั้นแตกต่างกัน การกดสิวผิดประเภท อาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิมเสียอีก!

สิวแบบไหนที่… “กด” ได้ (อย่างระมัดระวัง)?

โดยทั่วไปแล้ว สิวที่สามารถกดได้อย่างปลอดภัย (และควรกดอย่างถูกวิธี) คือ สิวหัวเปิด หรือที่เรียกกันติดปากว่า สิวหัวดำ และ สิวหัวปิด หรือ สิวอุดตันหัวขาว

  • สิวหัวดำ (Blackheads): ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีดำบนผิว เกิดจากไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน เมื่อสัมผัสกับอากาศจึงเปลี่ยนเป็นสีดำ การกดสิวหัวดำอย่างถูกวิธี จะช่วยกำจัดสิ่งอุดตันออกไป ทำให้รูขุมขนสะอาดขึ้น
  • สิวหัวขาว (Whiteheads): ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีขาวขุ่นใต้ผิวหนัง เกิดจากไขมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขนเช่นกัน แต่ยังไม่มีการสัมผัสกับอากาศ การกดสิวหัวขาวอย่างถูกวิธี จะช่วยระบายสิ่งอุดตันออกไป และลดโอกาสการอักเสบ

ข้อควรระวังในการกดสิวหัวดำและสิวหัวขาวด้วยตัวเอง:

  • ความสะอาดสำคัญที่สุด: ล้างมือและบริเวณที่จะกดสิวให้สะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ที่ใช้กดสิว (เช่น ที่กดสิว) ด้วยแอลกอฮอล์
  • กดอย่างเบามือ: ใช้ที่กดสิวหรือปลายนิ้วที่สะอาดกดเบาๆ บริเวณรอบสิว หากไม่สามารถกดออกได้ง่ายๆ อย่าฝืน เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรืออักเสบ
  • หยุดเมื่อมีเลือดออก: หากกดสิวแล้วมีเลือดออก ให้หยุดทันทีและใช้สำลีสะอาดกดซับ
  • ดูแลผิวหลังกดสิว: หลังกดสิว ให้ทายาแต้มสิวที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide หรือ Salicylic Acid เพื่อฆ่าเชื้อและลดการอักเสบ

สิวแบบไหนที่… “ปล่อย” ให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ?

สิวบางประเภทไม่ควรบีบหรือกดด้วยตัวเองอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นที่ยากต่อการรักษา สิวเหล่านี้ ได้แก่:

  • สิวอักเสบ (Inflammatory Acne): ได้แก่ สิวผด สิวตุ่มแดง สิวหัวหนอง สิวหัวช้าง และสิวซีสต์ สิวเหล่านี้เกิดจากการอักเสบของรูขุมขน การบีบหรือกดสิวอักเสบจะยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น และเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • สิวหนอง (Pustules): ลักษณะเป็นตุ่มแดงที่มีหนองอยู่ภายใน การบีบสิวหนองจะทำให้หนองแตกกระจาย และแพร่กระจายเชื้อไปยังบริเวณอื่น
  • สิวหัวช้าง (Nodules): ลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง มักมีอาการเจ็บ การบีบสิวหัวช้างจะยิ่งทำให้การอักเสบรุนแรงขึ้น และอาจทำให้เกิดแผลเป็นนูน (Keloid)
  • สิวซีสต์ (Cysts): ลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ใต้ผิวหนัง ภายในมีหนองและสารเหลวข้น การบีบสิวซีสต์ด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง และทิ้งรอยแผลเป็นขนาดใหญ่

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง?

หากคุณมีสิวอักเสบ สิวหัวช้าง สิวซีสต์ หรือสิวที่รักษายากด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์ผิวหนังอาจแนะนำการรักษาด้วยยา การฉีดสิว หรือการทำทรีตเมนต์ต่างๆ เพื่อลดการอักเสบ ลดรอยแผลเป็น และป้องกันการเกิดสิวในอนาคต

สรุป:

การจัดการกับสิวอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันการอักเสบ การติดเชื้อ และการเกิดรอยแผลเป็น หากคุณไม่แน่ใจว่าสิวประเภทใดที่สามารถกดได้ด้วยตัวเอง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง เพื่อผิวหน้าที่สวยใส ไร้สิว กวนใจ