เครื่องสำอางญี่ปุ่นดูวันหมดอายุยังไง

2 การดู

เครื่องสำอางญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่มีวันหมดอายุระบุไว้ หากเปิดใช้แล้วควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี สังเกต วันผลิต ใต้ผลิตภัณฑ์ มักเป็นรหัส 3 ตัว เช่น 1D3 ตัวแรกคือปีที่ผลิต (1 = 2021), ตัวที่สองคือเดือน (D อาจหมายถึงเดือนเมษายน - ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย) ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ผู้ผลิตเพื่อความถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไขความลับรหัสลับ: อ่านวันหมดอายุเครื่องสำอางญี่ปุ่นฉบับไม่งง

สำหรับสาวก J-Beauty คงทราบดีว่าเครื่องสำอางญี่ปุ่นนั้นขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความอ่อนโยนต่อผิว แต่สิ่งที่ทำให้หลายคนปวดหัวไม่น้อยก็คือ การตามหาวันหมดอายุที่มักจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนเหมือนเครื่องสำอางแบรนด์อื่นๆ ทำให้เกิดความกังวลว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้อยู่นั้นยังปลอดภัยและมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่

จริงอยู่ที่เครื่องสำอางญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ไม่ได้พิมพ์วันหมดอายุไว้บนผลิตภัณฑ์โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องสำอางที่ผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่น หากเป็นเครื่องสำอางที่ยังไม่ได้เปิดใช้และเก็บรักษาอย่างเหมาะสม (ในที่แห้งและเย็น พ้นจากแสงแดด) โดยทั่วไปแล้วสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 ปี แต่เมื่อเปิดใช้แล้ว ผู้ผลิตส่วนใหญ่แนะนำให้ ใช้ให้หมดภายใน 1 ปี เพื่อรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องสำอางชิ้นนั้นผลิตเมื่อไหร่? นี่คือจุดที่ต้องสังเกต “รหัสการผลิต” ที่มักจะปรากฏอยู่ใต้ผลิตภัณฑ์ หรือบนบรรจุภัณฑ์ โดยมักจะเป็นตัวเลขและตัวอักษรผสมกัน แต่ละแบรนด์ก็จะมีวิธีการเข้ารหัสที่แตกต่างกันไป

หลักการพื้นฐานในการอ่านรหัสการผลิต:

  • ปี: มักจะแสดงด้วยตัวเลขตัวแรก เช่น 1 อาจหมายถึงปี 2021, 2 หมายถึงปี 2022 เป็นต้น (ต้องอ้างอิงกับข้อมูลจากแบรนด์)
  • เดือน: มักจะใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษแทนเดือน เช่น A แทนเดือนมกราคม, B แทนเดือนกุมภาพันธ์ ไปจนถึง L แทนเดือนธันวาคม แต่ก็มีบางแบรนด์ที่ใช้ตัวเลขแทนเดือนโดยตรง
  • วัน: บางแบรนด์อาจระบุวันผลิตด้วยตัวเลขเพิ่มเติม

ตัวอย่าง: รหัส 1D3 ที่กล่าวถึงข้างต้น อาจตีความได้ว่าผลิตในเดือนเมษายน (D) ปี 2021 (1) แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลขและตัวอักษรตัวที่สาม (3 ในตัวอย่าง) อาจมีความหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับล็อตการผลิต หรือข้อมูลภายในของบริษัท

สิ่งที่ควรทำเพื่อไขรหัสลับ:

  1. ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ผู้ผลิต: นี่คือวิธีที่แม่นยำที่สุด เพราะแต่ละแบรนด์จะมีระบบการเข้ารหัสของตัวเอง การเข้าไปดูในหน้า FAQ หรือ Contact Us บนเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการอ่านรหัสได้ถูกต้อง
  2. ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า: หากหาข้อมูลในเว็บไซต์ไม่เจอ ลองติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของแบรนด์โดยตรง พวกเขาจะสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับรหัสการผลิตของผลิตภัณฑ์ที่คุณถืออยู่ได้
  3. สังเกตลักษณะของผลิตภัณฑ์: หากเครื่องสำอางมีกลิ่น สี หรือเนื้อสัมผัสที่ผิดปกติไปจากเดิม แม้จะยังไม่หมดอายุตามรหัสที่อ่านได้ ก็ควรหยุดใช้ทันที

เคล็ดลับเพิ่มเติม:

  • จดวันที่เปิดใช้: เมื่อเปิดใช้เครื่องสำอางแล้ว ให้จดวันที่เปิดใช้ไว้บนผลิตภัณฑ์ หรือในสมุดบันทึก เพื่อช่วยเตือนความจำว่าควรใช้ให้หมดภายใน 1 ปี
  • เก็บรักษาอย่างเหมาะสม: การเก็บรักษาเครื่องสำอางในที่ที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ความร้อน และความชื้น
  • สังเกตอาการแพ้: หากใช้เครื่องสำอางแล้วเกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง ให้หยุดใช้ทันที แม้ว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะยังไม่หมดอายุ

การทำความเข้าใจรหัสการผลิตของเครื่องสำอางญี่ปุ่นอาจต้องใช้ความพยายามสักหน่อย แต่ก็คุ้มค่าที่จะเรียนรู้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณกำลังใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เพื่อผิวสวยสุขภาพดีแบบฉบับ J-Beauty อย่างแท้จริง!