แปรงฟันหินปูนหลุดไหม

3 การดู

แปรงฟันแรงไม่ได้กำจัดหินปูน! การขัดถูรุนแรงทำร้ายเหงือกและคอฟัน ทำให้เหงือกร่น ฟันสึก เสียวฟันง่ายขึ้น และเพิ่มโอกาสเศษอาหารติดฟัน หินปูนต้องขูดออกโดยทันตแพทย์เท่านั้น แปรงฟันอย่างอ่อนโยนและใช้ไหมขัดฟันเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีกว่า

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

แปรงฟันแรง…ไม่ช่วย “กำจัดหินปูน” แต่กลับทำร้ายช่องปากโดยไม่รู้ตัว!

หลายคนมีความเชื่อผิดๆ ว่าการแปรงฟันอย่างรุนแรงจะช่วยขจัดคราบหินปูนที่ฝังแน่นอยู่บนผิวฟันออกไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การแปรงฟันด้วยแรงที่มากเกินไป กลับไม่ได้ช่วยให้หินปูนหลุดออกไปได้เลย ซ้ำร้ายยังเป็นการทำร้ายสุขภาพช่องปากของเราโดยไม่รู้ตัวอีกด้วย

ทำไมแปรงฟันแรงถึงไม่ได้ผล?

คราบหินปูน คือ คราบพลัค (คราบจุลินทรีย์) ที่สะสมอยู่บนผิวฟันเป็นเวลานาน และเกิดการแข็งตัวด้วยแร่ธาตุจากน้ำลาย กลายเป็นคราบแข็งที่เกาะติดแน่น การแปรงฟัน แม้จะใช้แรงมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถขจัดคราบหินปูนที่แข็งตัวนี้ออกไปได้ เพราะคราบหินปูนมีโครงสร้างที่แข็งแรงและยึดเกาะกับผิวฟันอย่างแน่นหนา

ผลเสียที่เกิดจากการแปรงฟันแรงเกินไป

  • เหงือกร่น: การแปรงฟันด้วยแรงที่มากเกินไปจะทำให้เหงือกเกิดการอักเสบ บวมแดง และร่นลงในที่สุด เมื่อเหงือกร่นลง จะทำให้รากฟันซึ่งไม่มีเคลือบฟันปกคลุมโผล่ออกมา ทำให้ฟันมีความไวต่อความร้อน ความเย็น และอาหารรสหวานมากยิ่งขึ้น
  • ฟันสึก: การแปรงฟันด้วยแรงที่มากเกินไปเป็นเวลานาน จะทำให้เคลือบฟันค่อยๆ สึกกร่อนไปทีละน้อย โดยเฉพาะบริเวณคอฟัน ซึ่งเป็นบริเวณที่เคลือบฟันบางที่สุด เมื่อเคลือบฟันสึกไป จะทำให้เนื้อฟันที่อยู่ข้างใต้ ซึ่งมีความแข็งแรงน้อยกว่า โดนทำลายได้ง่ายขึ้น
  • เสียวฟัน: เมื่อเหงือกร่นและเคลือบฟันสึก จะทำให้เนื้อฟันที่อยู่ภายในสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นภายนอกได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดอาการเสียวฟันเมื่อรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิร้อนจัด เย็นจัด หรือมีรสหวานจัด
  • เศษอาหารติดฟันง่าย: การที่เหงือกร่นและฟันสึก จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันและเหงือกมากขึ้น ทำให้เศษอาหารเข้าไปติดค้างได้ง่าย และยากต่อการทำความสะอาด ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและโรคเหงือก

วิธีขจัดหินปูนที่ถูกต้อง

วิธีเดียวที่จะกำจัดคราบหินปูนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการ ขูดหินปูน โดยทันตแพทย์ การขูดหินปูนเป็นหัตถการที่ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือพิเศษในการขจัดคราบหินปูนที่เกาะติดแน่นบนผิวฟันออกไป โดยไม่ทำลายเนื้อฟันหรือเหงือก

ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันการเกิดหินปูน

  • แปรงฟันอย่างถูกวิธี: ใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม แปรงฟันให้ทั่วทุกซี่อย่างเบามือ โดยเน้นบริเวณรอยต่อระหว่างฟันและเหงือก แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน
  • ใช้ไหมขัดฟัน: ใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟันอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบพลัคที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
  • ใช้น้ำยาบ้วนปาก: ใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับเคลือบฟัน และลดการสะสมของคราบพลัค
  • พบทันตแพทย์เป็นประจำ: พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

สรุป: การแปรงฟันแรงไม่ได้ช่วยกำจัดหินปูน แต่กลับทำร้ายสุขภาพช่องปากของเรา การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธีด้วยการแปรงฟันอย่างอ่อนโยน ใช้ไหมขัดฟัน ใช้น้ำยาบ้วนปาก และพบทันตแพทย์เป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดหินปูนและรักษาสุขภาพช่องปากให้แข็งแรงได้ในระยะยาว