แสงจากมือถือทำให้เกิดฝ้าได้ไหม

แสงจากหน้าจอมือถือ อาจส่งผลต่อผิวหนังของคุณได้หรือไม่?

เราใช้โทรศัพท์มือถือแทบตลอดทั้งวัน แสงจากหน้าจอเหล่านี้ส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังอย่างไร? คำตอบคือ แสงจากหน้าจอมือถือ โดยตรง ไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดฝ้า อย่างไรก็ตาม แสงสีฟ้า (Blue Light) ที่ปล่อยออกมาจากหน้าจอมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ อาจมีส่วนทำให้ปัญหาผิวบางประเภทแย่ลงได้

ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่ ความเข้มของแสง แสงแดดเป็นแหล่งแสงที่รุนแรงและมีช่วงคลื่นกว้าง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการก่อให้เกิดฝ้า กระ และริ้วรอย แสงจากหน้าจอมือถือมีพลังงานต่ำกว่ามาก จึงไม่สามารถกระตุ้นการผลิตเมลานินในระดับที่ส่งผลให้เกิดฝ้าได้โดยตรง

อย่างไรก็ตาม แสงสีฟ้าจากหน้าจอมือถือ อาจมีส่วนทำให้ผิวหนังอ่อนแอลงได้ในระยะยาว โดยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ:

• การอักเสบ: แสงสีฟ้าอาจกระตุ้นการอักเสบของผิวหนัง ทำให้เกิดอาการแพ้ง่ายขึ้น และทำให้การบำรุงผิวหนังทำได้ยากขึ้น
• ความเสียหายจากอนุมูลอิสระ: แสงสีฟ้าอาจเพิ่มความเสียหายจากอนุมูลอิสระในเซลล์ผิว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของริ้วรอยและความหมองคล้ำ
• การลดประสิทธิภาพการบำรุงผิว: แสงสีฟ้าอาจลดประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวบางชนิด ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาสภาพผิวให้ดีขึ้น

ดังนั้น แม้แสงจากหน้าจอมือถือไม่ใช่สาเหตุหลักของการเกิดฝ้า แต่การใช้หน้าจอมือถือมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพผิวหนังในระยะยาว จึงควรมีการดูแลผิวให้ดีขึ้นด้วยการ:

• ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และ PA+++: นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงแดด
• หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงในช่วงเวลา 10.00-16.00 น.: ช่วงเวลานี้แสงแดดมีพลังงานสูงที่สุด
• บำรุงผิวด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: การรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากแสงต่างๆ
• ปรับระยะเวลาการใช้งานมือถือ: พยายามลดการใช้มือถือในช่วงเวลากลางคืน และใช้มือถือโดยการห่างออกจากหน้าตาให้มากที่สุด

โดยสรุป แสงจากหน้าจอมือถือไม่ได้ทำให้เกิดฝ้าโดยตรง แต่ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพผิวหนังในระยะยาวได้ การดูแลผิวอย่างครอบคลุมจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง