การเกิดเสียงสูง เสียงต่ําขึ้นอยู่กับอะไร

3 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

เสียงสูงต่ำที่เราได้ยินนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่วัตถุสั่นในหนึ่งวินาที หรือที่เรียกว่า ความถี่ หากการสั่นเกิดขึ้นถี่ๆ จะได้ยินเสียงสูง เช่น เสียงนกหวีด แต่ถ้าสั่นช้าๆ จะได้ยินเสียงต่ำ เช่น เสียงทุ้มของกลองชุด การเปลี่ยนแปลงความถี่นี้เองที่ทำให้เกิดเสียงต่างๆ ที่เราได้ยินในชีวิตประจำวัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เสียงสูงต่ำ : ภวังค์แห่งการสั่นสะเทือน

เสียงสูงต่ำที่เราได้ยินนั้น มิใช่เรื่องลึกลับซับซ้อนอย่างที่คิด ความลับแฝงอยู่เบื้องหลังความรู้สึกทางประสาทสัมผัสนี้ คือปรากฏการณ์ทางกายภาพที่เรียกว่า ความถี่ กล่าวคือ จำนวนครั้งที่แหล่งกำเนิดเสียงสั่นสะเทือนในหนึ่งวินาที นั่นเอง

ลองนึกภาพสายกีตาร์ที่ถูกดีด เมื่อเราดีดสายกีตาร์ สายนั้นจะสั่นสะเทือนไปมา การสั่นสะเทือนนี้จะทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของโมเลกุลอากาศโดยรอบ การเคลื่อนตัวนี้เองที่เดินทางมาสู่หูของเรา และถูกตีความเป็นเสียง หากสายกีตาร์สั่นสะเทือนอย่างรวดเร็ว ด้วยความถี่สูง เราจะได้ยินเสียงสูง เช่น เสียงแหลมใสของนกหวีด หรือเสียงสูงๆ ของไวโอลิน ในทางกลับกัน หากสายกีตาร์สั่นสะเทือนช้าๆ ด้วยความถี่ต่ำ เราจะได้ยินเสียงต่ำ เช่น เสียงทุ้มลึกของเครื่องเป่าหรือเสียงกลองใหญ่

แต่ความถี่มิใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดเสียงสูงต่ำ ขนาดและรูปทรงของวัตถุที่สั่นสะเทือนก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน ลองเปรียบเทียบเสียงที่เกิดจากการตีฆ้องขนาดใหญ่กับฆ้องขนาดเล็ก แม้ฆ้องทั้งสองอาจมีการสั่นสะเทือนด้วยความถี่ใกล้เคียงกัน แต่ขนาดและรูปทรงของฆ้องจะส่งผลต่อความกังวาลและความเต็มของเสียง ทำให้เกิดความแตกต่างในระดับเสียงที่รับรู้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น ความดังของเสียง (Amplitude) ก็มีอิทธิพลต่อการรับรู้เสียงสูงต่ำ เสียงที่ดังมาก อาจทำให้เราประเมินเสียงนั้นสูงกว่าความเป็นจริงได้ ในทางกลับกัน เสียงที่เบามาก อาจทำให้เราประเมินเสียงนั้นต่ำกว่าความเป็นจริงเช่นกัน จึงเป็นการย้ำให้เห็นว่า การรับรู้เสียงสูงต่ำนั้นเป็นปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อน มิใช่เพียงแค่ความถี่อย่างเดียว

ดังนั้น เสียงสูงต่ำที่เราสัมผัสได้ในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นผลมาจากการเล่นแร่แปรธาตุของความถี่ ขนาด รูปทรง และแม้แต่ความดังของแหล่งกำเนิดเสียง ซึ่งล้วนประสานกันอย่างลงตัว สร้างสรรค์โลกแห่งเสียงอันหลากหลายและน่าทึ่งให้เราได้สัมผัส และศึกษาค้นคว้าต่อไปอย่างไม่รู้จบ