คําย่อในสมุดบัญชีมีอะไรบ้าง

3 การดู

ข้อมูลแนะนำ:

เข้าใจง่าย! ไขรหัสลับในสมุดบัญชีของคุณ พบกับความหมายของตัวย่อที่พบบ่อย เช่น RT (เช็คคืน) หรือ DI (เงินปันผล) ช่วยให้คุณตรวจสอบรายการเดินบัญชีได้อย่างแม่นยำ ลดความสับสนและติดตามเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไขรหัสลับสมุดบัญชี: ถอดรหัสอักษรย่อที่ควรรู้ เพื่อการเงินที่คล่องตัว

สมุดบัญชีธนาคาร เปรียบเสมือนบันทึกชีวิตทางการเงินของเรา ที่บันทึกทุกการเคลื่อนไหวของเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนที่เข้า เงินที่จ่ายออก หรือดอกเบี้ยที่ได้รับ แต่บ่อยครั้งที่เรากลับต้องเผชิญหน้ากับ “รหัสลับ” ที่ซ่อนอยู่ภายใต้อักษรย่อต่างๆ ที่ปรากฏในรายการเดินบัญชี ทำให้การตรวจสอบและทำความเข้าใจการเงินของเราเป็นไปอย่างยากลำบาก

บทความนี้จะมาช่วยไขรหัสลับเหล่านั้น ถอดรหัสอักษรย่อที่พบบ่อยในสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบรายการเดินบัญชีได้อย่างแม่นยำ ลดความสับสน และติดตามการเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ทำไมต้องมีอักษรย่อในสมุดบัญชี?

การใช้ตัวย่อในสมุดบัญชีมีเหตุผลหลายประการ:

  • ประหยัดพื้นที่: สมุดบัญชีมีพื้นที่จำกัด การใช้ตัวย่อช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลได้มากขึ้น
  • ความรวดเร็ว: การใช้ตัวย่อช่วยให้พนักงานธนาคารสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • ความเป็นสากล: ธนาคารส่วนใหญ่ใช้ตัวย่อที่คล้ายคลึงกัน ทำให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ

รวมรหัสลับที่พบบ่อยในสมุดบัญชี (และมากกว่าข้อมูลแนะนำ):

นอกเหนือจากข้อมูลแนะนำ (RT และ DI) มาดูกันว่ามีอักษรย่ออื่นๆ ที่ควรรู้อีกบ้าง:

  • RT (Returned Check): เช็คคืน สาเหตุอาจมาจากเงินในบัญชีไม่พอ หรือเช็คมีข้อผิดพลาด
  • DI (Dividend): เงินปันผล มักปรากฏในบัญชีที่เชื่อมโยงกับการลงทุนในหุ้น
  • CR (Credit): เครดิต หรือเงินเข้าบัญชี
  • DR (Debit): เดบิต หรือเงินออกจากบัญชี
  • ATM (Automated Teller Machine): การทำรายการผ่านตู้ ATM
  • POS (Point of Sale): การชำระเงินผ่านเครื่องรูดบัตร (EDC)
  • TRF (Transfer): การโอนเงิน
  • IB (Internet Banking): การทำรายการผ่านอินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง
  • MB (Mobile Banking): การทำรายการผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารบนมือถือ
  • CMS (Cash Management System): ระบบบริหารจัดการเงินสด มักใช้ในบัญชีธุรกิจ
  • INT (Interest): ดอกเบี้ย
  • TXN (Transaction): รายการทำธุรกรรม
  • DD (Direct Debit): การหักบัญชีอัตโนมัติ มักใช้กับการชำระค่าบริการต่างๆ
  • CHQ (Cheque): เช็ค
  • RFD (Refund): เงินคืน
  • SC (Service Charge): ค่าบริการ
  • O/D (Overdraft): เงินเบิกเกินบัญชี
  • STL (Settlement): การชำระบัญชี
  • B/F (Brought Forward): ยอดคงเหลือยกมา
  • C/F (Carried Forward): ยอดคงเหลือยกไป

เคล็ดลับเพิ่มเติมเพื่อการตรวจสอบบัญชีที่มีประสิทธิภาพ:

  • ทำความเข้าใจรหัสของธนาคาร: แต่ละธนาคารอาจมีรหัสย่อที่แตกต่างกันเล็กน้อย ควรสอบถามจากธนาคารของคุณโดยตรงหากไม่เข้าใจ
  • ตรวจสอบรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ: การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณตรวจพบความผิดปกติได้เร็วขึ้น
  • ติดต่อธนาคารหากมีข้อสงสัย: อย่าลังเลที่จะติดต่อธนาคารหากคุณไม่เข้าใจรายการใดๆ ในสมุดบัญชี
  • ใช้แอปพลิเคชั่นธนาคาร: แอปพลิเคชั่นธนาคารส่วนใหญ่มักแสดงรายละเอียดรายการที่ชัดเจนกว่าในสมุดบัญชี
  • จดบันทึก: จดบันทึกรายการสำคัญ และเหตุผลในการทำธุรกรรม เพื่อการตรวจสอบที่ง่ายขึ้น

สรุป:

การทำความเข้าใจอักษรย่อในสมุดบัญชีเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล การรู้จัก “รหัสลับ” เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบรายการเดินบัญชีได้อย่างแม่นยำ ลดความสับสน และติดตามการเงินของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อย่าลืมตรวจสอบรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และติดต่อธนาคารหากมีข้อสงสัย เพื่อให้คุณสามารถควบคุมการเงินของคุณได้อย่างเต็มที่และมั่นใจ