ทำไมต้องให้ LPRC

1 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่:

ส่วนประกอบของเลือดแต่ละชนิดมีประโยชน์เฉพาะทาง LPRC เหมาะสำหรับลดผลข้างเคียงจากเม็ดเลือดขาวในการให้เลือด ส่วน PC ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดในผู้ป่วยที่มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เช่น ผู้ป่วยไข้เลือดออก การเลือกใช้ส่วนประกอบเลือดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษา

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมต้องให้ LPRC: เจาะลึกประโยชน์และความจำเป็นในการให้เลือดเฉพาะส่วนประกอบ

การให้เลือดเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยชีวิตผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกการให้เลือดจะต้องเป็นการให้เลือดครบส่วน (Whole Blood) ในหลายกรณี การให้เลือดเฉพาะส่วนประกอบ (Component Therapy) กลับเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้เม็ดเลือดแดงชนิดเม็ดเลือดขาวน้อย (Leukocyte-Poor Red Blood Cells: LPRC) ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย

LPRC คืออะไร และแตกต่างจากการให้เลือดแบบอื่นอย่างไร?

LPRC คือ เม็ดเลือดแดงที่ผ่านกระบวนการพิเศษเพื่อลดปริมาณเม็ดเลือดขาวลงอย่างมาก กระบวนการนี้มักใช้ตัวกรองพิเศษ (Leukocyte Reduction Filter) เพื่อกำจัดเม็ดเลือดขาวออกจากเลือดแดง ทำให้ LPRC มีปริมาณเม็ดเลือดขาวเหลือน้อยมากเมื่อเทียบกับการให้เลือดแดงแบบปกติ หรือการให้เลือดครบส่วน

เหตุใดจึงต้องให้ LPRC และมีประโยชน์อย่างไร?

การให้ LPRC มีประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการให้เลือด:

  • ลดความเสี่ยงของการเกิดปฏิกิริยาไข้ (Febrile Non-Hemolytic Transfusion Reaction: FNHTR): เม็ดเลือดขาวในเลือดที่ได้รับอาจกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการไข้ หนาวสั่น และอาการไม่พึงประสงค์อื่นๆ การลดปริมาณเม็ดเลือดขาวลงอย่างมากใน LPRC ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดปฏิกิริยานี้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
  • ลดความเสี่ยงของการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน (Alloimmunization): การได้รับเม็ดเลือดขาวที่ไม่เข้ากันกับผู้ป่วย อาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อเม็ดเลือดขาวเหล่านั้น ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อการให้เลือดในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่ต้องได้รับการให้เลือดเป็นประจำ เช่น ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย หรือผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว การให้ LPRC ช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
  • ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ Cytomegalovirus (CMV): CMV เป็นไวรัสที่แฝงตัวอยู่ในเม็ดเลือดขาวได้ ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก หรือผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรงหากติดเชื้อ CMV ผ่านการให้เลือด LPRC จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้
  • ลดความเสี่ยงของการเกิด Transfusion-Related Acute Lung Injury (TRALI): TRALI เป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงจากการให้เลือด ซึ่งทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน แม้ว่าสาเหตุของ TRALI จะยังไม่เป็นที่เข้าใจอย่างแน่ชัด แต่เชื่อว่าแอนติบอดีในเลือดของผู้ให้บริจาคที่ทำปฏิกิริยากับเม็ดเลือดขาวของผู้รับ อาจมีส่วนทำให้เกิดภาวะนี้ การให้ LPRC ช่วยลดความเสี่ยงได้เนื่องจากมีปริมาณเม็ดเลือดขาวน้อย

ใครบ้างที่ควรได้รับ LPRC?

การตัดสินใจว่าจะให้ LPRC หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพของผู้ป่วยและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยทั่วไป ผู้ป่วยที่ควรได้รับการพิจารณาให้ LPRC ได้แก่:

  • ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติการเกิด FNHTR จากการให้เลือดในอดีต
  • ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการให้เลือดเป็นประจำ เช่น ผู้ป่วยธาลัสซีเมีย หรือผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว
  • ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูก
  • ทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด
  • ผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV

LPRC และส่วนประกอบเลือดอื่นๆ: การเลือกใช้ให้เหมาะสม

การให้เลือดเฉพาะส่วนประกอบช่วยให้แพทย์สามารถเลือกส่วนประกอบที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วยได้อย่างจำเพาะเจาะจง เช่น หากผู้ป่วยมีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ (Thrombocytopenia) อาจจำเป็นต้องให้เกล็ดเลือด (Platelet Concentrate: PC) แทนที่จะให้เลือดครบส่วน ในกรณีของไข้เลือดออก การให้ PC ช่วยเพิ่มเกล็ดเลือดในผู้ป่วยและลดความเสี่ยงของการเสียเลือด

สรุป

การให้ LPRC เป็นทางเลือกที่มีประโยชน์ในการลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์จากการให้เลือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง การเลือกใช้ส่วนประกอบเลือดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อประเมินความจำเป็นและเลือกวิธีการให้เลือดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย