IR คือ ค่า อะไร

IR คืออะไร? กุญแจสำคัญสู่ความเย็นสบายด้วยฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “ค่า IR” โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงสำหรับบ้านหรือรถยนต์ แต่ IR คืออะไรกันแน่ และทำไมค่า IR สูงจึงสำคัญ? บทความนี้จะไขข้อข้องใจและชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของค่า IR ในการเลือกฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง

IR ย่อมาจาก Infrared หรือ รังสีอินฟราเรด เป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งที่ตาของมนุษย์มองไม่เห็น แต่สามารถรับรู้ได้ในรูปของความร้อน รังสีอินฟราเรดเป็นส่วนประกอบสำคัญของแสงแดด คิดเป็นสัดส่วนถึง 53% ของพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด นั่นหมายความว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบผิวโลกนั้น เป็นความร้อนจากรังสีอินฟราเรด

เมื่อแสงแดดส่องผ่านกระจกเข้ามาในบ้านหรือรถยนต์ รังสีอินฟราเรดจะถูกดูดซับ ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในห้อง ส่งผลให้ห้องร้อนอบอ้าว ต้องใช้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลืองพลังงานและค่าไฟฟ้า รวมถึงอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจากความร้อนสะสมได้อีกด้วย

ดังนั้น ฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูงจึงถูกออกแบบมาเพื่อลดการผ่านของรังสีอินฟราเรด โดยมีการวัดประสิทธิภาพการป้องกันรังสีอินฟราเรดนี้ด้วย “ค่า IR” ค่า IR หมายถึงเปอร์เซ็นต์ของรังสีอินฟราเรดที่ฟิล์มสามารถป้องกันได้ ยิ่งค่า IR สูงเท่าไหร่ ก็แสดงว่าฟิล์มนั้นสามารถกรองรังสีอินฟราเรดได้มากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ความร้อนที่เข้าสู่ภายในลดลงอย่างเห็นได้ชัด

การเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีค่า IR สูงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการลดความร้อน ทั่วไปแล้ว ฟิล์มกรองแสงที่มีค่า IR สูงกว่า 60% ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันความร้อน ช่วยลดการใช้เครื่องปรับอากาศ ประหยัดพลังงาน และสร้างความเย็นสบายให้กับพื้นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ภายในบ้านที่อาจเสียหายจากความร้อนสะสมได้อีกด้วย

ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อฟิล์มกรองแสง อย่าลืมตรวจสอบค่า IR และเปรียบเทียบกับฟิล์มรุ่นอื่นๆ เพื่อให้ได้ฟิล์มที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ เลือกฟิล์มที่มีค่า IR สูง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ความเย็นสบายที่แท้จริง และช่วยประหยัดพลังงานไปพร้อมๆ กัน