L/C กับ B/C ต่างกันอย่างไร

L/C ปะทะ B/C: เลือกเครื่องมือทางการเงินที่ใช่ เพื่อความสำเร็จในการค้าระหว่างประเทศ

การค้าระหว่างประเทศเปรียบเสมือนการเดินเรือในมหาสมุทร การเลือกใช้เครื่องมือและกลยุทธ์ที่เหมาะสมเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือวิธีการชำระเงิน ซึ่ง L/C (Letter of Credit) และ B/C (Bill of Collection) คือสองตัวเลือกยอดนิยมที่มักสร้างความสับสนให้กับผู้ประกอบการ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกความแตกต่าง ข้อดี-ข้อเสีย เพื่อให้คุณเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

L/C (Letter of Credit) หรือ เอกสารสินเชื่อ คือ สัญญาจากธนาคารของผู้นำเข้า (Issuing Bank) ที่รับประกันการชำระเงินให้แก่ผู้ส่งออก (Beneficiary) ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน L/C เช่น การนำเสนอเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนภายในเวลาที่กำหนด L/C จึงเปรียบเสมือนหลักประกันชั้นดีที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับผู้ส่งออก มั่นใจได้ว่าจะได้รับเงินค่าสินค้าแน่นอน แม้ว่าผู้นำเข้าจะผิดนัดชำระเงินก็ตาม

B/C (Bill of Collection) หรือ การเรียกเก็บเงินตามเอกสาร คือ การที่ธนาคารของผู้ส่งออก (Remitting Bank) ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย เช่น ใบตราส่งสินค้า ใบกำกับสินค้า ไปยังธนาคารของผู้นำเข้า (Collecting Bank) เพื่อเรียกเก็บเงินจากผู้นำเข้า B/C มีความยืดหยุ่นสูงกว่า L/C และค่าธรรมเนียมก็มักจะถูกกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงที่ผู้นำเข้าอาจปฏิเสธการชำระเงินได้

ตารางเปรียบเทียบ L/C และ B/C

การเลือกใช้ L/C หรือ B/C ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:

• ความสัมพันธ์และความน่าเชื่อถือของคู่ค้า: หากค้าขายกับคู่ค้าที่เพิ่งรู้จัก หรือมีความเสี่ยงสูง L/C จะเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า
• มูลค่าของสินค้า: หากมูลค่าสินค้าสูง ควรเลือกใช้ L/C เพื่อลดความเสี่ยง
• เเงื่อนไขการค้าขาย: Incoterms ที่ตกลงกัน เช่น CIF, FOB ก็มีผลต่อการเลือกใช้วิธีการชำระเงิน
• สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมือง: ในภาวะเศรษฐกิจผันผวน L/C อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า

การทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง L/C และ B/C อย่างถ่องแท้ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือทางการเงินได้อย่างเหมาะสม เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน และนำพาธุรกิจของคุณสู่ความสำเร็จในตลาดโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือธนาคารที่ให้บริการด้านการค้าระหว่างประเทศเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจของคุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการค้าระหว่างประเทศ