คนเมารถต้องนั่งตรงไหน

3 การดู

เพื่อลดอาการเมารถ ควรหลีกเลี่ยงการนั่งใกล้บริเวณที่มีกลิ่นรบกวน เช่น ท้ายรถที่มีควัน หรือบริเวณที่ทานอาหาร หากเดินทางด้วยรถโดยสารสองชั้น การนั่งบนชั้นบนอาจช่วยลดอาการได้ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวน้อยกว่าและมองเห็นวิวได้ชัดเจนขึ้น ลดความรู้สึกอึดอัดจากการมองไม่เห็นทิศทาง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตำแหน่งพิชิตเมารถ: นั่งตรงไหนถึงจะรอด?

อาการเมารถเป็นประสบการณ์ที่น่าหงุดหงิดสำหรับใครหลายคน เปลี่ยนการเดินทางที่น่ารื่นรมย์ให้กลายเป็นฝันร้าย หลายคนอาจเคยได้ยินคำแนะนำต่างๆ นานา แต่คำถามที่คาใจอยู่เสมอคือ “นั่งตรงไหนถึงจะดีที่สุด?” คำตอบนั้นไม่ได้ตายตัวเสมอไป ขึ้นอยู่กับชนิดของยานพาหนะและสรีระของแต่ละบุคคล แต่มีหลักการบางอย่างที่เราสามารถนำมาปรับใช้เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการเมารถได้

หัวใจสำคัญ: การลดความขัดแย้งของสัญญาณ

อาการเมารถเกิดขึ้นจากความขัดแย้งของสัญญาณที่สมองได้รับจากอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะตาและหูชั้นใน ตาเห็นว่าร่างกายอยู่นิ่ง แต่หูชั้นในรับรู้ถึงการเคลื่อนไหว ทำให้สมองสับสนและเกิดอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ ดังนั้น การเลือกที่นั่งที่ช่วยลดความขัดแย้งนี้จึงเป็นกุญแจสำคัญ

ยานพาหนะต่างชนิด ตำแหน่งต่างกัน:

  • รถยนต์: ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือ ที่นั่งด้านหน้าข้างคนขับ เพราะเป็นตำแหน่งที่เห็นทิศทางการเคลื่อนที่ของรถได้ชัดเจนที่สุด ช่วยให้สมองประมวลผลข้อมูลได้อย่างสอดคล้อง และยังได้รับผลกระทบจากการส่ายไปมาของรถน้อยกว่าที่นั่งด้านหลัง หากจำเป็นต้องนั่งด้านหลัง ควรเลือก ที่นั่งตรงกลาง เพราะแรงเหวี่ยงจะน้อยที่สุด
  • รถโดยสาร: หากเป็น รถโดยสารชั้นเดียว ควรเลือก ที่นั่งใกล้กับล้อหน้า เพราะเป็นจุดที่มีการสั่นสะเทือนน้อยที่สุด หากเป็น รถโดยสารสองชั้น การ นั่งชั้นบน อาจช่วยลดอาการได้จริงดังที่กล่าวมา เพราะมีทัศนวิสัยที่กว้างขึ้น มองเห็นวิวได้ชัดเจน ลดความรู้สึกอึดอัดจากการถูกบดบังทัศนียภาพ แต่สำหรับบางคน ชั้นล่างอาจจะดีกว่า เพราะอยู่ใกล้จุดศูนย์ถ่วงของรถมากกว่า ทำให้โยกเยกน้อยกว่า
  • เรือ: การ นั่งบริเวณกลางลำเรือ จะช่วยลดอาการโคลงเคลงได้ดีกว่า การนั่งบริเวณหัวเรือหรือท้ายเรือ
  • เครื่องบิน: การ นั่งบริเวณปีกเครื่องบิน จะช่วยลดอาการสั่นสะเทือนได้มากที่สุด

ปัจจัยเสริมที่ช่วยลดอาการเมารถ:

นอกเหนือจากการเลือกที่นั่งแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่สามารถช่วยลดอาการเมารถได้ ดังนี้

  • มองไปยังทิศทางการเคลื่อนที่: พยายามมองไปยังเส้นขอบฟ้า หรือจุดที่อยู่ไกลออกไป เพื่อให้สายตาสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ
  • หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์: การเพ่งมองสิ่งต่างๆ ที่อยู่ใกล้ตัวจะยิ่งทำให้สมองสับสน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนไม่เพียงพอจะยิ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอและไวต่ออาการเมารถ
  • ทานอาหารเบาๆ: หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด หรือมีไขมันสูง ก่อนการเดินทาง
  • สูดอากาศบริสุทธิ์: การเปิดหน้าต่างเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท อาจช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้
  • ทานยาแก้เมารถ: หากอาการเมารถเป็นมาก การทานยาแก้เมารถก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

สรุป:

การเลือกที่นั่งที่เหมาะสมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการป้องกันอาการเมารถ การทำความเข้าใจกลไกการเกิดอาการ และการปรับพฤติกรรมบางอย่าง สามารถช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่นและมีความสุขมากยิ่งขึ้น ทดลองปรับเปลี่ยนวิธีการต่างๆ เพื่อค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุด แล้วการเดินทางครั้งต่อไปของคุณก็จะกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอย่างแท้จริง