พรบ.ขาดเกิดอุบัติเหตุทําไง
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่มี พ.ร.บ. คุ้มครอง คุณจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทนที่เกิดกับคู่กรณีเองทั้งหมด อีกทั้งยังอาจถูกเรียกร้องค่าเบี้ยปรับจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเพิ่มเติมอีก 20%
พรบ.ขาด เกิดอุบัติเหตุทำอย่างไร
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (พรบ.) เป็นกฎหมายที่บังคับให้ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกประเภทต้องทำ เพื่อคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทนอื่นๆ ให้แก่ผู้ประสบภัย
หากเกิดอุบัติเหตุแต่ไม่มี พรบ.
หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นและผู้ขับขี่ไม่มี พรบ. คุ้มครอง จะเกิดผลกระทบดังนี้
- ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง ผู้ขับขี่ต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาล และค่าสินไหมทดแทนที่เกิดกับคู่กรณีทั้งหมดด้วยตนเอง
- ถูกปรับเงิน กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยสามารถเรียกเก็บค่าเบี้ยปรับเพิ่มเติมได้ 20% ของค่าสินไหมทดแทนที่ต้องจ่ายจริง
ขั้นตอนที่ต้องทำเมื่อเกิดอุบัติเหตุและไม่มี พรบ.
หากเกิดอุบัติเหตุและไม่มี พรบ. ควรดำเนินการขั้นตอนดังนี้
- แจ้งความ แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อลงบันทึกประจำวัน
- ประสานกับกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ติดต่อกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเพื่อแจ้งอุบัติเหตุและยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์
- เจรจากับคู่กรณี พูดคุยกับคู่กรณีเพื่อตกลงค่าสินไหมทดแทน ค่าซ่อมรถ และค่ารักษาพยาบาลโดยตรง
- ชำระค่าสินไหมทดแทน หากตกลงค่าสินไหมทดแทนกันได้แล้ว ผู้ขับขี่ต้องชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่คู่กรณีเอง
- ชำระค่าปรับ หากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเรียกเก็บค่าเบี้ยปรับ ผู้ขับขี่ต้องชำระค่าปรับตามที่กำหนด
การทำ พรบ. มีความสำคัญอย่างไร
การทำ พรบ. มีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจากอุบัติเหตุรถยนต์ เนื่องจาก พรบ. จะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ และค่าสินไหมทดแทนอื่นๆ
ดังนั้น ผู้ขับขี่รถยนต์ทุกประเภทควรทำ พรบ. ให้ถูกต้องและต่ออายุตามกำหนด เพื่อความอุ่นใจและการคุ้มครองด้านการเงินในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
#ชดเชย#พรบ#อุบัติเหตุข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต