เมารถทำยังไงถึงจะหาย
เมารถใช่ไหม? ลองวิธีเหล่านี้! เลือกนั่งจุดที่มั่นคงในรถ มองไปยังเส้นขอบฟ้าไกลๆ แทนที่จะอ่านหนังสือ หรือทานยาแก้เมารถล่วงหน้า 30 นาที เช่น ไดเมนไฮดริเนท (ระวังง่วงซึม!) หรือจะลองใส่แว่นกันแดด/หลับตาพักผ่อน ก็ช่วยบรรเทาได้เช่นกัน
เมารถแก้ได้ ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป!
อาการเมารถ คล้ายกับฝันร้ายกลางวันสำหรับใครหลายคน ความรู้สึกคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว และอ่อนเพลีย สามารถทำลายความสนุกของการเดินทางได้อย่างสิ้นเชิง แต่ไม่ต้องกังวล! บทความนี้จะนำเสนอวิธีรับมือกับอาการเมารถแบบองค์รวม ตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนขึ้นรถ ไปจนถึงเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจช่วยบรรเทาอาการได้อย่างน่าอัศจรรย์
เตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง:
-
เลือกที่นั่งอย่างชาญฉลาด: ตำแหน่งที่นั่งมีผลอย่างมากต่ออาการเมารถ ควรเลือกนั่งบริเวณที่สั่นสะเทือนน้อยที่สุด เช่น เบาะหน้าข้างคนขับ หรือเบาะกลางแถวหลัง หลีกเลี่ยงการนั่งเบาะหลังสุด เพราะเป็นจุดที่รับแรงกระแทกมากที่สุด
-
ปรับพฤติกรรมการกิน: ก่อนออกเดินทาง ควรงดอาหารมื้อใหญ่ เน้นทานอาหารเบาๆ ย่อยง่าย เช่น ขนมปังปิ้ง โยเกิร์ต และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีกลิ่นแรง เพราะอาจกระตุ้นอาการคลื่นไส้ได้
-
ยาแก้เมารถ: ตัวช่วยสำคัญ: ยาแก้เมารถ เช่น ไดเมนไฮดริเนท สามารถช่วยบรรเทาอาการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทานยาก่อนออกเดินทางประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร และควรระวังอาการง่วงซึมที่อาจเกิดขึ้นหลังจากทานยา
ระหว่างการเดินทาง:
-
โฟกัสที่จุดคงที่ไกลสุดลูกหูลูกตา: การมองไปยังเส้นขอบฟ้า หรือวัตถุที่อยู่ไกลๆ และไม่เคลื่อนไหว จะช่วยให้สมองรับรู้ถึงการทรงตัวได้ดีขึ้น หลีกเลี่ยงการอ่านหนังสือ เล่นโทรศัพท์ หรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มหน้า เพราะจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง
-
ควบคุมอุณหภูมิและการระบายอากาศ: อากาศร้อนอบอ้าวอาจทำให้อาการเมารถกำเริบได้ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือปรับอุณหภูมิภายในรถให้เย็นสบาย
-
เทคนิคเพิ่มเติม: การหลับตาพักผ่อน ฟังเพลงเบาๆ หรือใช้แว่นตาเฉพาะสำหรับผู้เมารถ (แว่นที่มีของเหลวเคลื่อนที่ตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ) ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการได้เช่นกัน
-
พักเป็นระยะ: หากเดินทางไกล ควรหยุดพักรถทุกๆ 2-3 ชั่วโมง ลงมายืดเส้นยืดสาย เดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและลดอาการเมารถได้
หากลองทำตามวิธีเหล่านี้แล้วยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีการรักษาที่เหมาะสมต่อไป อย่าปล่อยให้อาการเมารถมาทำลายความสุขในการเดินทางของคุณ!
#รักษาเมารถ#อาการเมารถ#เมารถข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต