กรุ๊ปเลือด negative คืออะไร

เลือดกรุ๊ปติดลบ: ความหายากและความสำคัญที่ควรรู้

เราต่างคุ้นเคยกับการแบ่งหมู่เลือดหลักๆ เช่น A, B, AB และ O แต่รู้หรือไม่ว่า นอกจากการแบ่งกลุ่มตามระบบ ABO แล้ว ยังมีการแบ่งย่อยอีกประเภทหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ ระบบ Rh ซึ่งแบ่งเป็น Rh บวก (+) และ Rh ลบ (-) บทความนี้จะพาไปเจาะลึกถึงกรุ๊ปเลือด Rh ลบ หรือที่เรียกกันว่า “กรุ๊ปเลือดติดลบ” ความหายาก และความสำคัญที่ทุกคนควรตระหนัก

กรุ๊ปเลือดติดลบ หมายถึง เลือดที่ปราศจากแอนติเจน Rh D บนผิวเม็ดเลือดแดง ซึ่งแอนติเจนนี้เป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง หากร่างกายตรวจพบแอนติเจน Rh D จะถือว่าเป็น Rh บวก แต่หากไม่พบก็จะจัดเป็น Rh ลบ ความแตกต่างนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในกระบวนการถ่ายเลือด

สำหรับคนไทย กรุ๊ปเลือด Rh ลบ ถือว่าหายากมาก พบเพียงประมาณ 0.3% ของประชากร เปรียบเทียบกับ Rh บวก ที่พบได้มากถึง 99.7% ความหายากนี้ส่งผลโดยตรงต่อการจัดหาเลือดสำหรับผู้ป่วยที่มีกรุ๊ปเลือด Rh ลบ โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน การหาเลือดที่เข้ากันได้ทันท่วงทีอาจเป็นเรื่องยากลำบากและส่งผลต่อการรักษา

ความสำคัญของการรู้กรุ๊ปเลือด Rh ของตนเอง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินเท่านั้น สำหรับสตรีมีครรภ์ที่มี Rh ลบ หากบุตรในครรภ์มี Rh บวก อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า “โรคเม็ดเลือดแดงแตกของทารกแรกเกิด” ได้ ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของทารกในครรภ์ การตรวจสอบกรุ๊ปเลือด Rh ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการดูแลและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้อย่างเหมาะสม

ดังนั้น การรู้กรุ๊ปเลือดของตนเองทั้งระบบ ABO และ Rh จึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่เพื่อความปลอดภัยของตนเอง แต่ยังรวมถึงการช่วยเหลือผู้อื่นที่อาจต้องการเลือดกรุ๊ปเดียวกันในยามฉุกเฉิน ท่านสามารถตรวจสอบหมู่เลือดได้ที่โรงพยาบาล คลินิก หรือหน่วยงานที่ให้บริการตรวจเลือดทั่วไป อย่ารอช้า เริ่มต้นดูแลสุขภาพของตนเองด้วยการรู้จักกรุ๊ปเลือดของตนเองตั้งแต่วันนี้