ต้นมะม่วงหิมพานต์ มีกี่สายพันธุ์

2 การดู

มะม่วงหิมพานต์ไม่ได้มีเพียงแค่พันธุ์ศรีสะเกษเท่านั้น! ทั่วโลกมีพันธุ์ปลูกมากมายหลายร้อยสายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งขนาด รสชาติ และผลผลิต การเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่เป็นกุญแจสู่ผลผลิตคุณภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

มะม่วงหิมพานต์: ความหลากหลายอันน่าทึ่ง

มะม่วงหิมพานต์ (Anacardium occidentale) เป็นต้นไม้เขตร้อนที่รู้จักกันดีในผลเมล็ดที่มีรสหวานและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ผลของต้นมะม่วงหิมพานต์มีเฉพาะเมล็ดเดียวที่ห่อหุ้มด้วยเปลือกแข็งที่เรียกว่า “เปลือกหุ้มเมล็ด” ซึ่งมีสารพิษชื่อยูรูชิออล

แม้ว่ามะม่วงหิมพานต์จะมักเกี่ยวข้องกับพันธุ์ศรีสะเกษที่มีชื่อเสียง แต่ทั่วโลกมีพันธุ์ปลูกของมะม่วงหิมพานต์นับร้อยสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งในด้านขนาด รสชาติ และผลผลิต การเลือกสายพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

สายพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ที่หลากหลาย

สายพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ที่ปลูกกันทั่วโลกแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มหลัก ได้แก่

  • พันธุ์พื้นเมือง: เป็นพันธุ์ที่พบในป่าตามธรรมชาติ มีลักษณะผลขนาดเล็ก เปลือกหนา และผลผลิตต่ำ
  • พันธุ์ปลูก: เป็นพันธุ์ที่พัฒนาขึ้นโดยการคัดเลือกพันธุ์พันธุ์พื้นเมือง มีลักษณะผลขนาดใหญ่ เปลือกบาง และผลผลิตสูง

ในบรรดาพันธุ์ปลูก สายพันธุ์ต่อไปนี้เป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย:

  • พันธุ์อินเดีย: มีผลขนาดใหญ่มาก เปลือกบาง มีรสหวานจัด พันธุ์ที่นิยม ได้แก่ Cashew 16, Dhana, Vengurla
  • พันธุ์เวียดนาม: มีผลขนาดกลาง เปลือกบาง มีรสชาติมัน มีการปรับตัวที่ดีเยี่ยมกับสภาพภูมิอากาศที่หลากหลาย พันธุ์ที่นิยม ได้แก่ CH1, DR1, VNR1
  • พันธุ์บราซิล: มีผลขนาดเล็ก เปลือกหนา มีรสชาติมันและกรอบ พันธุ์ที่นิยม ได้แก่ BRS 189, CCP 76
  • พันธุ์คิวบา: มีผลขนาดเล็ก เปลือกบาง มีรสชาติมันและกรอบ มีการปรับตัวที่ดีเยี่ยมกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง พันธุ์ที่นิยม ได้แก่ INIAP-A, INIAP-B
  • พันธุ์ศรีสะเกษ: สายพันธุ์จากประเทศไทยที่มีชื่อเสียง มีผลขนาดใหญ่ เปลือกบาง มีรสชาติมันและกรอบ มีผลผลิตสูง เป็นที่นิยมอย่างมากในตลาดโลก

ปัจจัยในการเลือกสายพันธุ์

การเลือกสายพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่

  • สภาพภูมิอากาศ: สายพันธุ์ต่างๆ มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่แตกต่างกัน
  • ชนิดดิน: บางสายพันธุ์เหมาะกับดินที่มีการระบายน้ำได้ดี ในขณะที่บางสายพันธุ์สามารถทนต่อดินที่ระบายน้ำได้ไม่ดี
  • ความสูง: สายพันธุ์บางสายพันธุ์มีขนาดต้นสูง ในขณะที่บางสายพันธุ์มีขนาดต้นเตี้ย
  • ผลผลิต: สายพันธุ์ที่มีผลผลิตสูงจะให้เมล็ดที่มีปริมาณมากขึ้น
  • คุณภาพเมล็ด: สายพันธุ์ต่างๆ ให้ผลผลิตเมล็ดที่มีคุณภาพแตกต่างกัน

โดยการคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ เกษตรกรสามารถเลือกสายพันธุ์มะม่วงหิมพานต์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพพื้นที่ของตน เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงสุด