ผิวขาวเหลือง เกิดจากอะไร

4 การดู

ผิวขาวเหลืองซีดอาจเกิดจากการขาดวิตามินบี 12 ส่งผลให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้ผิวซีดและอาจออกโทนเหลือง อาการอื่นๆ ที่สังเกตได้คือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และมีปัญหาเรื่องระบบประสาท ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ผิวขาวเหลืองซีด: สัญญาณเตือนภัยที่ไม่ควรมองข้าม

ผิวขาวเหลืองซีด เป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แม้ว่าบางครั้งอาจเป็นเพียงแค่การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือได้รับแสงแดดน้อย แต่หากอาการนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง

สาเหตุหลักๆ ของผิวขาวเหลืองซีด:

  • การขาดวิตามินบี 12: วิตามินบี 12 มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง การขาดวิตามินนี้จะส่งผลให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ทำให้ผิวซีดและอาจออกโทนเหลือง อาการอื่นๆ ที่สังเกตได้คือ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร และมีปัญหาเรื่องระบบประสาท
  • โรคโลหิตจาง: เกิดจากการขาดธาตุเหล็ก ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ส่งผลให้ผิวซีด อ่อนเพลีย หายใจหอบ และหัวใจเต้นเร็ว
  • โรคตับ: ตับมีหน้าที่สำคัญในการผลิตสารที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง หากตับทำงานผิดปกติ จะส่งผลให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงได้น้อยลง ผิวจึงซีด นอกจากนี้ โรคตับอาจทำให้เกิดอาการเหลือง โดยเฉพาะที่ตาขาว
  • ปัญหาเกี่ยวกับไต: ไตมีส่วนสำคัญในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย หากไตทำงานผิดปกติ จะทำให้ร่างกายสะสมของเสีย ส่งผลให้ผิวซีด โดยเฉพาะบริเวณใต้ตา
  • ภาวะขาดน้ำ: ร่างกายที่ขาดน้ำจะทำให้เลือดมีความเข้มข้น ส่งผลให้ผิวซีดและดูแห้ง
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาลดความดันโลหิต อาจทำให้ผิวซีดได้

นอกเหนือจากอาการผิวขาวเหลืองซีด อาการอื่นๆ ที่ควรสังเกต ได้แก่:

  • อ่อนเพลีย
  • เบื่ออาหาร
  • หายใจหอบ
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • ปวดหัว
  • เวียนหัว
  • ปวดท้อง
  • มีไข้

การรักษาผิวขาวเหลืองซีด:

การรักษาผิวขาวเหลืองซีด จะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริง เช่น

  • การขาดวิตามินบี 12: แพทย์จะแนะนำให้น้ำวิตามินบี 12
  • โรคโลหิตจาง: แพทย์จะแนะนำให้รับประทานธาตุเหล็ก หรือรับเลือด
  • โรคตับ: แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยา หรือทำการผ่าตัด
  • ปัญหาเกี่ยวกับไต: แพทย์จะแนะนำให้รับประทานยา หรือล้างไต

การป้องกันผิวขาวเหลืองซีด:

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่มีผลข้างเคียงทำให้ผิวซีด
  • ตรวจสุขภาพประจำปี

หากคุณสังเกตเห็นอาการผิวขาวเหลืองซีด หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้โรคดำเนินไป จนส่งผลเสียต่อสุขภาพ