ระบบ GHS แบ่งประเภทความเป็นอันตรายออกเป็นกี่ด้าน

0 การดู

ระบบ GHS จัดกลุ่มความเป็นอันตรายเป็น 3 ด้านหลัก ได้แก่ ความเป็นอันตรายทางกายภาพ เช่น ระเบิด ติดไฟง่าย ความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การระคายเคืองตา และความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ครอบคลุมสารเคมีหลากหลายประเภทเพื่อการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ระบบ GHS: การจัดการความเสี่ยงจากสารเคมีด้วยระบบการจำแนกประเภท 3 มิติ

ระบบ GHS (Globally Harmonized System of Classification and Labelling of Chemicals) หรือระบบการจำแนกประเภทและการติดฉลากสารเคมีที่ประสานสอดคล้องกันทั่วโลก เป็นระบบสากลที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดความสอดคล้องในการจัดการความเสี่ยงจากสารเคมีทั่วโลก จุดประสงค์หลักคือการลดความสับสนและความคลุมเครือที่เกิดจากระบบการจำแนกประเภทและการติดฉลากสารเคมีที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และส่งเสริมความปลอดภัยในการจัดการและใช้งานสารเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของระบบ GHS อยู่ที่การกำหนดเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันในการประเมินและจำแนกความเป็นอันตรายของสารเคมี ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่การระบุว่าสารเคมีนั้นเป็นอันตราย แต่ยังรวมถึงการระบุ ระดับ ความอันตรายและ ประเภท ของอันตรายอีกด้วย และนี่เองที่ทำให้ระบบ GHS แตกต่างจากระบบการจำแนกประเภทแบบเดิมๆ

ระบบ GHS แบ่งประเภทความเป็นอันตรายออกเป็น สามด้านหลัก ซึ่งครอบคลุมสารเคมีหลากหลายประเภท และช่วยให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถเข้าใจและจัดการความเสี่ยงได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ สามด้านหลักนั้นประกอบด้วย:

  1. ความเป็นอันตรายทางกายภาพ (Physical Hazards): ครอบคลุมความเป็นอันตรายที่เกิดจากคุณสมบัติทางกายภาพของสารเคมี เช่น ความสามารถในการระเบิด การติดไฟง่าย การเกิดปฏิกิริยา ความไม่เสถียร การเกิดออกซิเดชัน และการก่อให้เกิดการกัดกร่อน ตัวอย่างเช่น แก๊สไวไฟ สารเคมีที่ไวต่อการระเบิด หรือสารเคมีที่สามารถเกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัสกับสารอื่นๆ

  2. ความเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (Health Hazards): ครอบคลุมความเป็นอันตรายที่เกิดจากการสัมผัสสารเคมีต่อสุขภาพของมนุษย์ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น การเป็นพิษเฉียบพลันหรือเรื้อรัง การระคายเคือง การแพ้ การก่อมะเร็ง การก่อกลายพันธุ์ การก่อความผิดปกติของทารกในครรภ์ และการเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ ตัวอย่างเช่น สารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหนัง สารเคมีที่เป็นพิษต่อระบบประสาท หรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

  3. ความเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Hazards): ครอบคลุมความเป็นอันตรายของสารเคมีต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ความเป็นพิษต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ ความสามารถในการสะสมในสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการทำลายชั้นโอโซน ตัวอย่างเช่น สารเคมีที่เป็นพิษต่อปลา สารเคมีที่ทำลายพืช หรือสารเคมีที่ทำลายชั้นโอโซน

ระบบ GHS ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การแบ่งประเภทความเป็นอันตรายทั้งสามด้านนี้เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการกำหนดข้อความเตือน สัญลักษณ์ภาพ และคำแนะนำในการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทำให้การสื่อสารเกี่ยวกับความเสี่ยงของสารเคมีเป็นไปอย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ส่งผลให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานและการใช้สารเคมีอย่างยั่งยืน และลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้วยความครอบคลุมและความเป็นสากลของระบบ GHS จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากอันตรายที่อาจเกิดจากสารเคมี การทำความเข้าใจและการนำระบบ GHS ไปใช้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการและใช้งานสารเคมี