สายไฟ 4 sq mm ทนกระแสได้ กี่ แอ ม ป์

2 การดู

สายไฟทองแดงชนิด THHN ขนาด 4 ตารางมิลลิเมตร ผ่านการทดสอบมาตรฐาน IEC 60227-5 รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 40 แอมแปร์ ที่อุณหภูมิแวดล้อม 30 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคาร มีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อการสึกกร่อน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สายไฟ 4 ตารางมิลลิเมตร ทนกระแสได้เท่าไหร่? มากกว่าแค่ตัวเลข

คำถามที่ว่า “สายไฟ 4 ตารางมิลลิเมตร ทนกระแสได้กี่แอมแปร์?” เป็นคำถามพื้นฐานแต่สำคัญยิ่งสำหรับงานติดตั้งระบบไฟฟ้า คำตอบที่ได้ยินบ่อยๆ คือ “40 แอมแปร์” แต่ความจริงแล้ว คำตอบนี้ไม่ใช่คำตอบที่สมบูรณ์ และอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดและความเสี่ยงด้านความปลอดภัยได้

เช่นเดียวกับข้อมูลที่ระบุว่า “สายไฟทองแดงชนิด THHN ขนาด 4 ตารางมิลลิเมตร รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 40 แอมแปร์ ที่อุณหภูมิแวดล้อม 30 องศาเซลเซียส” ตัวเลข 40 แอมแปร์นี้เป็นเพียงค่าอ้างอิงภายใต้เงื่อนไขเฉพาะ คือการทดสอบตามมาตรฐาน IEC 60227-5 และอุณหภูมิแวดล้อมที่ควบคุมอย่างดีที่ 30 องศาเซลเซียส

ในสภาพการใช้งานจริง ปัจจัยหลายอย่างมีผลต่อความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าของสายไฟ และอาจทำให้ค่ากระแสสูงสุดที่สายไฟสามารถรับได้ลดลง ปัจจัยเหล่านี้รวมถึง:

  • อุณหภูมิแวดล้อม: อุณหภูมิที่สูงขึ้นจะทำให้ความสามารถในการนำกระแสไฟฟ้าของสายไฟลดลง ดังนั้นในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส กระแสไฟฟ้าสูงสุดที่สายไฟสามารถรับได้จะน้อยกว่า 40 แอมแปร์อย่างแน่นอน การคำนวณที่ถูกต้องต้องพิจารณาจากตารางการลดค่ากระแสตามอุณหภูมิที่ระบุไว้ในมาตรฐานของสายไฟนั้นๆ

  • การเดินสาย: การเดินสายแบบรวมกลุ่ม การเดินสายในท่อที่อับอากาศ หรือการเดินสายในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศไม่ดี จะทำให้เกิดการสะสมความร้อน ส่งผลให้ความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าลดลง

  • ชนิดของฉนวน: ชนิดของฉนวนที่ใช้หุ้มสายไฟมีผลต่อความสามารถในการทนความร้อน สายไฟที่มีฉนวนคุณภาพสูงจะสามารถรับกระแสไฟฟ้าได้มากกว่า

  • ระยะเวลาในการใช้งาน: การใช้งานสายไฟเป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้กระแสไฟฟ้าสูง จะทำให้สายไฟเสื่อมสภาพ และความสามารถในการรับกระแสไฟฟ้าลดลง

ดังนั้น การใช้ตัวเลข 40 แอมแปร์เป็นตัวเลขตายตัวสำหรับสายไฟ 4 ตารางมิลลิเมตรจึงเป็นการประเมินที่ไม่ปลอดภัย ควรศึกษาคู่มือการใช้งานของสายไฟ และคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น เพื่อกำหนดกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานจริง และควรปรึกษาช่างไฟฟ้าผู้ชำนาญการเพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐาน

สุดท้ายนี้ ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การเลือกใช้สายไฟที่มีขนาดและคุณภาพเหมาะสม พร้อมกับการติดตั้งที่ถูกต้อง จะช่วยป้องกันอัคคีภัยและความเสียหายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่าประมาท และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในบ้านหรือสถานที่ทำงานของคุณเสมอ