หลอดเก็บเลือด EDTA คืออะไร

4 การดู

หลอดเก็บเลือด EDTA หรือหลอดสีม่วง ใช้สาร EDTA ชนิดเกลือไดโพแทสเซียมหรือไดโซเดียม ป้องกันการแข็งตัวของเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการตรวจวิเคราะห์ทางโลหิตวิทยา รักษาสภาพเม็ดเลือดได้ดีเยี่ยม ให้ผลตรวจมีความแม่นยำสูง ควรเก็บรักษาในอุณหภูมิห้อง และนำไปวิเคราะห์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

หลอดเก็บเลือด EDTA สีม่วง: ผู้พิทักษ์ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

การตรวจเลือดเป็นขั้นตอนสำคัญในการวินิจฉัยโรคมากมาย และความถูกต้องแม่นยำของผลการตรวจนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ “หลอดเก็บเลือด” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลอดเก็บเลือด EDTA หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ หลอดสีม่วง บทความนี้จะเจาะลึกถึงความสำคัญและคุณสมบัติเฉพาะตัวของหลอดเก็บเลือดชนิดนี้

หลอดเก็บเลือด EDTA ไม่ใช่เพียงแค่หลอดแก้วธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อรักษาสภาพของตัวอย่างเลือดให้คงสภาพเดิมที่สุด ภายในหลอดสีม่วงนี้บรรจุสาร Ethylenediaminetetraacetic acid (EDTA) ซึ่งอยู่ในรูปของเกลือ โดยทั่วไปจะเป็นเกลือไดโพแทสเซียม (K2 EDTA) หรือเกลือไดโซเดียม (Na2 EDTA) สาร EDTA นี้ทำหน้าที่เป็น สารกันเลือดแข็ง (anticoagulant) ที่ทรงประสิทธิภาพ โดยการจับกับไอออนของแคลเซียมในเลือด ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระบวนการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดในหลอดคงสภาพเป็นของเหลว ไม่เกิดการจับตัวเป็นลิ่มเลือด และรักษาโครงสร้างของเซลล์เม็ดเลือดต่างๆ ไว้ได้อย่างสมบูรณ์

ความสำคัญของการใช้หลอดเก็บเลือด EDTA นั้นอยู่ที่การตรวจวิเคราะห์ทาง โลหิตวิทยา (Hematology) ซึ่งครอบคลุมการตรวจนับเม็ดเลือดต่างๆ เช่น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด รวมถึงการตรวจหาความผิดปกติของรูปร่างและขนาดของเม็ดเลือด การใช้ EDTA ช่วยให้เม็ดเลือดคงรูปร่างและขนาดที่แท้จริง ป้องกันการเสียรูปร่างอันเนื่องมาจากการแข็งตัว ส่งผลให้ได้ผลการตรวจที่แม่นยำและเชื่อถือได้ หลอด EDTA จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตรวจเลือดที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น การตรวจหาโรคโลหิตจางชนิดต่างๆ โรคเม็ดเลือดขาว หรือภาวะเกล็ดเลือดต่ำ

ถึงแม้ว่า EDTA จะเป็นสารกันเลือดแข็งที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีข้อควรระวังในการใช้งาน คือควรเก็บรักษาหลอด EDTA ไว้ที่ อุณหภูมิห้อง และควรนำไปวิเคราะห์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพเม็ดเลือด ซึ่งอาจส่งผลต่อความถูกต้องของผลการตรวจ การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยให้ได้ผลการตรวจทางโลหิตวิทยาที่มีความแม่นยำสูง และนำไปสู่การวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

สรุปแล้ว หลอดเก็บเลือด EDTA สีม่วงเป็นเครื่องมือที่สำคัญยิ่งในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ความสามารถในการรักษาสภาพของเม็ดเลือดให้คงสภาพเดิม ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจวิเคราะห์ทางโลหิตวิทยา การเข้าใจถึงคุณสมบัติและข้อควรระวังในการใช้งานหลอด EDTA จะช่วยให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการสามารถให้บริการตรวจเลือดที่มีคุณภาพ และส่งผลให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุด