อะไรทำลายเเคลเซียม

0 การดู

การบริโภคผักตระกูลผักโขมและคะน้าในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการดูดซึมแคลเซียม เนื่องจากผักเหล่านี้มีสารออกซาเลตสูง สารนี้จะจับกับแคลเซียม ทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง ควรบริโภคอย่างพอเหมาะและหลากหลายเพื่อให้ได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอและมีสุขภาพที่ดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

สารพัดตัวร้ายแฝงตัว ล้วงลับเคล็ดลับการดูดซึมแคลเซียมที่คุณอาจไม่รู้

แคลเซียม แร่ธาตุสำคัญที่หลายคนรู้จักกันดีในฐานะผู้พิทักษ์กระดูกและฟันที่แข็งแรง แต่รู้หรือไม่ว่าแม้จะรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ร่างกายก็อาจไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่หากมีปัจจัยบางอย่างเข้ามาขัดขวางการดูดซึม วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำลายการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งอาจไม่ใช่แค่เพียงการขาดแคลเซียมในอาหารอย่างที่คิด

นอกเหนือจากที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การบริโภคผักตระกูลผักโขมและคะน้าในปริมาณมากเกินไป อาจเป็นอุปสรรคต่อการดูดซึมแคลเซียม เนื่องจากสารออกซาเลตที่มีอยู่สูง ซึ่งจับกับแคลเซียมทำให้ร่างกายดูดซึมได้ยาก แต่ความจริงแล้ว ยังมีตัวการอื่นๆ อีกมากมายที่แฝงตัวอยู่ ที่เราอาจมองข้ามไป ได้แก่:

  • กรดไฟติก (Phytic acid): พบมากในธัญพืชไม่ขัดสี ถั่ว และเมล็ดต่างๆ กรดไฟติกจะจับกับแคลเซียม ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ลดลง การแช่น้ำหรือการหมักดองสามารถลดปริมาณกรดไฟติกได้บ้าง แต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้ทั้งหมด

  • สารทาร์ทาเรท (Tartaric acid): พบในองุ่น และผลิตภัณฑ์จากองุ่น เช่น ไวน์ สารนี้ก็มีคุณสมบัติในการจับกับแคลเซียมเช่นกัน แม้ว่าจะไม่รุนแรงเท่ากับสารออกซาเลต แต่การบริโภคในปริมาณมากก็อาจส่งผลกระทบได้

  • โซเดียม (Sodium): การบริโภคโซเดียมในปริมาณสูง เช่น การรับประทานอาหารเค็มจัด จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น ส่งผลให้ระดับแคลเซียมในร่างกายลดลง

  • โปรตีนจากแหล่งที่มาบางประเภท: การบริโภคโปรตีนในปริมาณสูงเกินไป โดยเฉพาะโปรตีนจากสัตว์ อาจส่งผลให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้นเช่นกัน จึงควรบริโภคโปรตีนอย่างสมดุล

  • การขาดวิตามินดี (Vitamin D): วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการดูดซึมแคลเซียม หากร่างกายขาดวิตามินดี การดูดซึมแคลเซียมจะลดลง ดังนั้น การได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอหรือการรับประทานอาหารเสริมวิตามินดีจึงมีความสำคัญ

  • การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนมากเกินไป: การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนในปริมาณมาก จะทำให้ร่างกายขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น จึงควรควบคุมปริมาณการบริโภค

สรุปแล้ว การดูดซึมแคลเซียมที่ดีขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่เพียงการรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูงเท่านั้น การเลือกรับประทานอาหารให้หลากหลาย ควบคุมปริมาณของสารอาหารต่างๆ เช่นเดียวกับการได้รับวิตามินดีอย่างเพียงพอ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่สุขภาพกระดูกที่แข็งแรง หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริมาณแคลเซียมที่เหมาะสม ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องต่อไป