อินฟาเรดมีกี่ชนิด

9 การดู

รังสีอินฟราเรดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ อินฟราเรดไกล (Far IR) ที่มีความยาวคลื่นมากกว่า 1,500 นาโนเมตร และอินฟราเรดใกล้ (Near IR) ที่มีความยาวคลื่นน้อยกว่า 1,500 นาโนเมตร การแบ่งประเภทนี้ขึ้นอยู่กับช่วงความยาวคลื่น ซึ่งส่งผลต่อคุณสมบัติทางกายภาพและการใช้งานที่แตกต่างกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รังสีอินฟราเรด: การแบ่งประเภทตามความยาวคลื่นและการใช้งาน

รังสีอินฟราเรด (Infrared radiation) เป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เราสัมผัสได้ถึงความร้อนจากมันได้ รังสีชนิดนี้มีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและถูกนำไปใช้ในเทคโนโลยีมากมาย การจัดประเภทรังสีอินฟราเรดมักทำตามช่วงความยาวคลื่น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณสมบัติทางกายภาพและการใช้งานที่แตกต่างกัน

โดยทั่วไป รังสีอินฟราเรดแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ อินฟราเรดใกล้ (Near Infrared – NIR) และ อินฟราเรดไกล (Far Infrared – FIR) การแบ่งประเภทนี้เป็นเพียงการแบ่งตามความยาวคลื่นเท่านั้น และไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างทั้งสองช่วง ขอบเขตของการจัดประเภทอาจแตกต่างกันเล็กน้อยตามบริบททางวิทยาศาสตร์หรือเทคโนโลยี

อินฟราเรดใกล้ (NIR): มีช่วงความยาวคลื่นสั้นกว่า โดยทั่วไปหมายถึงช่วงระหว่างประมาณ 780 นาโนเมตร ถึง 1,500 นาโนเมตร ช่วงความยาวคลื่นนี้ใกล้เคียงกับช่วงคลื่นแสงสีแดง คุณสมบัติที่สำคัญของ NIR คือความสามารถในการทะลุผ่านฝุ่นละอองหรือหมอกได้ดี ทำให้สามารถใช้ในการตรวจวัดหรือถ่ายภาพผ่านสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ NIR ยังถูกใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เช่น ผลไม้ ผัก หรืออาหาร โดยการวิเคราะห์การดูดกลืนและการสะท้อนของแสงในช่วง NIR เทคโนโลยีการถ่ายภาพด้วยกล้อง NIR สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเกษตร การแพทย์ และอุตสาหกรรม

อินฟราเรดไกล (FIR): มีช่วงความยาวคลื่นที่ยาวกว่า โดยทั่วไปหมายถึงช่วงระหว่างประมาณ 1,500 นาโนเมตร ถึง 1 มิลลิเมตร คุณสมบัติสำคัญของ FIR คือการถ่ายเทพลังงานความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถใช้ในการให้ความร้อน การรักษาความร้อน และการอบแห้งได้ นอกจากนี้ FIR ยังถูกนำไปใช้ในด้านการแพทย์เพื่อการรักษาด้วยความร้อน และในอุตสาหกรรมเพื่อการฆ่าเชื้อหรือการอบแห้งวัสดุต่างๆ ช่วงความยาวคลื่นของ FIR ส่วนใหญ่ถูกดูดซึมโดยโมเลกุลของน้ำ และจึงสามารถใช้ในการทำความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกเหนือจากการแบ่งประเภทตามความยาวคลื่น บางครั้งก็มีการแบ่งย่อยช่วงอินฟราเรดเพิ่มเติม เช่น อินฟราเรดกลาง (Mid Infrared – MIR) ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่าง NIR และ FIR แต่การแบ่งประเภทเหล่านี้มักมีการกำหนดที่หลากหลายตามบริบททางวิทยาศาสตร์ การเลือกใช้ประเภทของรังสีอินฟราเรดจึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และการใช้งานเฉพาะเจาะจง