เลือดมีอายุกี่วัน

1 การดู

เม็ดเลือดแดง เปรียบเสมือนรถขนส่งออกซิเจนขนาดเล็ก ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปทั่วร่างกาย และนำคาร์บอนไดออกไซด์กลับมาขับทิ้ง อายุขัยของเม็ดเลือดแดงสั้นเพียง 4 เดือน หรือ 120 วันเท่านั้น ร่างกายจึงต้องสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ทดแทนอยู่เสมอ เพื่อรักษาสมดุลและประสิทธิภาพในการทำงาน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กว่าจะเป็นเม็ดเลือดแดง: ชีวิตที่สั้นแต่สำคัญต่อร่างกาย

พวกเราคุ้นเคยกับ “เลือด” ในฐานะของเหลวสีแดงที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แต่เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า เลือดแต่ละหยด แต่ละเซลล์ที่ประกอบกันขึ้นมานั้น มีอายุขัยยาวนานแค่ไหน? โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เม็ดเลือดแดง” พระเอกตัวน้อยที่ทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกายของเรา

ตามที่ทราบกันดีว่า เม็ดเลือดแดงมีอายุเพียง 120 วัน หรือประมาณ 4 เดือน เท่านั้น! อาจฟังดูสั้น แต่ช่วงชีวิตนี้เต็มไปด้วยภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่ขาดไม่ได้

ทำไมเม็ดเลือดแดงถึงมีอายุสั้น?

เหตุผลที่เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้น связано сโครงสร้างและหน้าที่ของมันเอง เม็ดเลือดแดงมีลักษณะพิเศษคือ ไม่มีนิวเคลียส (nucleus) ทำให้มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับบรรจุฮีโมโกลบิน (hemoglobin) โปรตีนที่จับกับออกซิเจน อย่างไรก็ตาม การไม่มีนิวเคลียสก็ทำให้เม็ดเลือดแดงไม่สามารถซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อถูกทำลายจากการเดินทางผ่านเส้นเลือดฝอยที่คดเคี้ยวและแคบ รวมถึงแรงเสียดทานจากการไหลเวียนในระบบเลือด

การเดินทางของเม็ดเลือดแดง: จากไขกระดูกสู่การทำลายที่ม้าม

เม็ดเลือดแดงถือกำเนิดขึ้นจากไขกระดูก (bone marrow) ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเม็ดเลือดที่สำคัญของร่างกาย เมื่อเม็ดเลือดแดงถูกปล่อยเข้าสู่กระแสเลือด มันจะเริ่มต้นภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการขนส่งออกซิเจนไปยังทุกซอกทุกมุมของร่างกาย

ตลอดระยะเวลา 120 วัน เม็ดเลือดแดงจะเดินทางไปทั่วร่างกายหลายต่อหลายครั้ง แบกภาระออกซิเจน และรับคาร์บอนไดออกไซด์กลับมา จนกระทั่งเมื่อหมดอายุขัย เม็ดเลือดแดงที่อ่อนแอและเสียหาย จะถูกส่งไปยัง “สุสานเม็ดเลือดแดง” หรือ “ม้าม” (spleen) ที่นี่ เม็ดเลือดแดงจะถูกทำลาย และส่วนประกอบต่างๆ จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ธาตุเหล็ก จะถูกนำกลับไปสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่

ความสำคัญของการสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่

การที่เม็ดเลือดแดงมีอายุสั้น ทำให้ร่างกายต้องสร้างเม็ดเลือดแดงใหม่ทดแทนอยู่เสมอ เพื่อรักษาระดับออกซิเจนในเลือดให้เพียงพอต่อความต้องการของเซลล์ต่างๆ หากร่างกายไม่สามารถสร้างเม็ดเลือดแดงได้ทัน ก็จะเกิดภาวะโลหิตจาง (anemia) ซึ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และมีอาการอื่นๆ ตามมา

ดูแลสุขภาพเพื่อเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง

เราสามารถช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงที่แข็งแรงได้ โดยการ:

  • รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง: ธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบิน ควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อแดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว และธัญพืช
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 12 และโฟเลต: วิตามินบี 12 และโฟเลตมีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินเหล่านี้ เช่น เนื้อสัตว์ นม ไข่ ผักใบเขียว และถั่ว
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนที่เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วย

ดังนั้น แม้เม็ดเลือดแดงจะมีอายุขัยที่สั้น แต่ความสำคัญของมันนั้นยิ่งใหญ่เกินกว่าจะมองข้าม การดูแลสุขภาพให้ดีจึงเป็นการสนับสนุนการทำงานของเม็ดเลือดแดง ให้สามารถปฏิบัติภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการขนส่งออกซิเจนไปทั่วร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ