โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องมีอะไรบ้าง

2 การดู

โรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องส่งผลให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อได้ไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น การติดเชื้อที่เกิดซ้ำหรือเรื้อรัง ไข้เวียนกลับมาเป็นประจำ และมีปัญหาเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ภูมิคุ้มกันรวน: พาเหรดโรคภัยที่ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องก่อ

ระบบภูมิคุ้มกันเปรียบเสมือนกองทัพผู้พิทักษ์ปกป้องร่างกายจากเหล่าศัตรูตัวร้ายอย่างเชื้อโรคต่างๆ หากกองทัพนี้บกพร่อง ร่างกายก็จะอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ซึ่งโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องนั้นมีหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่โรคเอดส์อย่างที่หลายคนเข้าใจ ความรุนแรงและอาการที่แสดงออกก็แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องบางประเภทที่พบได้บ่อย โดยเน้นให้เห็นความหลากหลายและความสำคัญของการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง

1. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องร้ายแรง (Severe Combined Immunodeficiency: SCID): เรียกได้ว่าเป็น “โรคเด็กฟองสบู่” เป็นโรคพันธุกรรมที่หายาก เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะทีเซลล์และบีเซลล์ ซึ่งเป็นเซลล์สำคัญในการต่อสู้กับการติดเชื้อ เด็กที่เป็นโรคนี้จะมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก ติดเชื้อได้ง่ายและรุนแรง อาจเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที การรักษาหลักคือการปลูกถ่ายไขกระดูก

2. โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องร่วม (Common Variable Immunodeficiency: CVID): เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบบ่อยในผู้ใหญ่ เกิดจากความผิดปกติในการสร้างแอนติบอดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยมักมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจบ่อยครั้ง ท้องร่วงเรื้อรัง และมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเพิ่มขึ้น การรักษาเน้นการรักษาตามอาการ เช่น การให้แอนติบอดีทดแทน และการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อ

3. โรคขาดแคลนแอนติบอดีชนิดเลือก (Selective Immunoglobulin A Deficiency: Selective IgA Deficiency): เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่พบบ่อยที่สุด เกิดจากการขาดแอนติบอดี IgA ซึ่งเป็นแอนติบอดีที่สำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ หรือมีอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจบ่อยครั้ง ท้องร่วง และอาการแพ้ การรักษาจะเน้นการรักษาตามอาการและป้องกันการติดเชื้อ

4. โรคเอดส์ (Acquired Immunodeficiency Syndrome: AIDS): เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HIV ซึ่งทำลายทีเซลล์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เสี่ยงต่อการติดเชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เช่น โรคปอดบวม โรคเยื่อบุตาอักเสบ และโรคซิฟิลิส การรักษาด้วยยาต้านไวรัสสามารถช่วยชะลอความก้าวหน้าของโรค และยืดอายุให้ผู้ป่วย

5. ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องจากยา (Drug-Induced Immunodeficiency): เกิดจากผลข้างเคียงของยาบางชนิด เช่น ยาเคมีบำบัด ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ ซึ่งจะไปกดภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อ การรักษาเน้นการลดหรือหยุดยา และการให้การรักษาแบบประคับประคอง

นี่เป็นเพียงตัวอย่างโรคระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องบางส่วน ยังมีโรคอื่นๆ อีกมากมาย หากมีอาการผิดปกติ เช่น ติดเชื้อบ่อย มีไข้เรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การดูแลสุขภาพที่ดี เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ