Leukocyte คือค่าอะไร

Leukocyte: ตัวชี้วัดสำคัญที่มากกว่าแค่ “เม็ดเลือดขาว” ในปัสสาวะ

คำว่า Leukocyte มักถูกเข้าใจง่ายๆ ว่าคือ “เม็ดเลือดขาว” ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องเพียงบางส่วน เพราะ Leukocyte ในทางการแพทย์ หมายถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวทั้งหมด ซึ่งมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีหน้าที่และความสำคัญแตกต่างกันไป การตรวจพบ Leukocyte โดยเฉพาะในปัสสาวะ จึงไม่ใช่เพียงการตรวจพบเม็ดเลือดขาวธรรมดาๆ แต่เป็นตัวบ่งชี้ถึงสภาวะสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง

บทความนี้จะเน้นเฉพาะการตรวจพบ Leukocyte ในปัสสาวะ ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือการอักเสบในระบบทางเดินปัสสาวะ

การตรวจหา Leukocyte ในปัสสาวะ

ปัจจุบันมีวิธีการตรวจหา Leukocyte ในปัสสาวะอยู่สองวิธีหลัก คือ

1. การตรวจด้วยแถบตรวจปัสสาวะ (Dipstick test): วิธีนี้ตรวจวัด Leukocyte esterase ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ปล่อยออกมาจากเม็ดเลือดขาว เป็นวิธีการตรวจเบื้องต้นที่รวดเร็วและสะดวก แต่มีความไวและความจำเพาะไม่สูงเท่ากับวิธีการตรวจทางจุลทรรศน์ ผลบวกจากการตรวจด้วยแถบตรวจปัสสาวะบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้สูงที่จะมี Leukocyte ในปัสสาวะ แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัด

2. การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ (Microscopic examination): วิธีนี้เป็นการตรวจหาเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะโดยตรง โดยการนำตัวอย่างปัสสาวะไปตรวจสอบภายใต้กล้องจุลทรรศน์ วิธีนี้มีความแม่นยำสูงกว่าการตรวจด้วยแถบตรวจปัสสาวะ และสามารถระบุชนิดของเม็ดเลือดขาวได้ การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จึงถือเป็นวิธีการยืนยันผลบวกจากการตรวจด้วยแถบตรวจปัสสาวะ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้องมากขึ้น

ความหมายของการพบ Leukocyte ในปัสสาวะ

การพบ Leukocyte ในปัสสาวะ บ่งชี้ถึงการอักเสบหรือการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection: UTI) โรคไตอักเสบ หรือแม้แต่การติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ อย่างไรก็ตาม การพบ Leukocyte เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยโรค แพทย์จำเป็นต้องพิจารณาอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อาการปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น หรือมีไข้ รวมถึงผลตรวจอื่นๆ เช่น การเพาะเชื้อปัสสาวะ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม

สรุป

Leukocyte ในปัสสาวะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่บ่งบอกถึงความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ การตรวจหา Leukocyte ควรทำร่วมกับการประเมินอาการและการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่เหมาะสม อย่าตีความผลตรวจด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง

หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ หากมีอาการผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเสมอ