การมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อันตรายไหม

4 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่ (48 คำ):

การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ แม้บางครั้งอาจไม่ร้ายแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้ การติดเชื้ออาจลุกลามส่งผลเสียต่อไต หรือร้ายแรงถึงขั้นภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดได้ การวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ: สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ ไม่ควรละเลย

การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ อาจเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนกังวลใจ เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างภายในร่างกาย แม้ว่าในบางครั้งอาจเป็นภาวะที่ไม่ร้ายแรง แต่การละเลยและปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นได้

เม็ดเลือดขาวในปัสสาวะคืออะไร?

โดยปกติแล้ว ปัสสาวะของคนเราควรจะใส และไม่มีเม็ดเลือดขาวปะปนอยู่ การตรวจพบเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ (Pyuria) แสดงให้เห็นว่ามีกระบวนการอักเสบ หรือการติดเชื้อเกิดขึ้นในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นกลไกการป้องกันตัวเองของร่างกายที่ส่งเม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับเชื้อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม

สาเหตุของการมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ:

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ (UTI) ซึ่งอาจเป็นการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ (กระเพาะปัสสาวะอักเสบ) หรือการติดเชื้อในไต (กรวยไตอักเสบ) นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่อาจเป็นไปได้ เช่น

  • นิ่วในไตหรือทางเดินปัสสาวะ: การมีนิ่วอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและการอักเสบ
  • โรคไต: โรคไตบางชนิดอาจทำให้เกิดการรั่วไหลของเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ
  • การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs): เช่น หนองใน หรือ คลามีเดีย
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดการอักเสบในไต
  • ภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune diseases): เช่น โรคลูปัส
  • การออกกำลังกายอย่างหนัก: อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนของเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะชั่วคราว

อันตรายของการละเลยเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ:

แม้ว่าการมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเพียงเล็กน้อย อาจไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรงเสมอไป แต่การละเลยอาการและปล่อยทิ้งไว้ อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้ เช่น

  • การติดเชื้อลุกลาม: หากปล่อยให้การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะลุกลาม อาจส่งผลเสียต่อไต และทำให้ไตทำงานผิดปกติในระยะยาว
  • ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis): ในกรณีที่ร้ายแรง การติดเชื้ออาจแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นภาวะที่อันตรายถึงชีวิต
  • ภาวะแทรกซ้อนในสตรีมีครรภ์: การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะในสตรีมีครรภ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
  • ความเสียหายต่อไตอย่างถาวร: หากการติดเชื้อในไตเรื้อรัง อาจนำไปสู่ความเสียหายต่อไตอย่างถาวร และทำให้เกิดภาวะไตวายในที่สุด

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบแพทย์:

หากคุณพบว่ามีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น

  • ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
  • ปัสสาวะแสบขัด
  • ปวดหลังหรือสีข้าง
  • ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็นหรือมีเลือดปน
  • มีไข้หรือหนาวสั่น

การวินิจฉัยและการรักษา:

แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และส่งตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันการมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะ และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การเพาะเชื้อปัสสาวะ เพื่อระบุชนิดของเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ตรวจพบ โดยทั่วไปแล้ว การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะจะรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ส่วนสาเหตุอื่นๆ อาจต้องรักษาด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป

สรุป:

การมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะเป็นสัญญาณที่ร่างกายส่งมาเตือนว่าอาจมีความผิดปกติเกิดขึ้น การปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ ก็เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ และรักษาสุขภาพโดยรวมให้แข็งแรง