Rh ย่อมาจากอะไรในทางการแพทย์

2 การดู

Rh หมายถึง Rhesus ซึ่งเป็นระบบหมู่เลือดที่สำคัญในการถ่ายเลือด มนุษย์มีหมู่เลือด Rh บวก (+) หรือลบ (-) ซึ่งกำหนดความเข้ากันได้ของการถ่ายเลือด

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

Rh: ความลับเบื้องหลังหมู่เลือด บวกหรือลบ ที่มากกว่าแค่เครื่องหมาย

คำว่า “Rh” ที่เราพบเห็นอยู่บ่อยๆ ในใบตรวจเลือด ไม่ใช่แค่ตัวอักษรลึกลับ แต่เป็นตัวแทนของระบบหมู่เลือดที่สำคัญยิ่ง มีผลกระทบต่อชีวิตและสุขภาพของเราอย่างไม่อาจมองข้าม มันคืออะไรกันแน่ และทำไมถึงสำคัญขนาดนั้น?

Rh ย่อมาจาก Rhesus (รีซัส) ซึ่งเป็นชื่อของลิงชนิดหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบแอนติเจน (Antigen) หรือสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งบนเซลล์เม็ดเลือดแดงเป็นครั้งแรก แอนติเจนนี้ เรียกว่า RhD เป็นตัวกำหนดว่าบุคคลนั้นมีหมู่เลือด Rh บวก (+) หรือ Rh ลบ (-) โดยหากมีแอนติเจน RhD บนเซลล์เม็ดเลือดแดง ก็จะมีหมู่เลือด Rh บวก (+) ส่วนถ้าไม่มี ก็จะเป็น Rh ลบ (-)

ความสำคัญของการรู้หมู่เลือด Rh นั้น อยู่ในเรื่องของการเข้ากันได้ของเลือด การถ่ายเลือดที่ไม่เข้ากันอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น การแข็งตัวของเลือดภายในหลอดเลือด (intravascular coagulation) อันเป็นอันตรายถึงชีวิต บุคคลที่มีหมู่เลือด Rh ลบ (-) จะไม่สามารถรับเลือดจากผู้ที่มีหมู่เลือด Rh บวก (+) ได้ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของผู้รับจะมองเห็นแอนติเจน RhD เป็นสิ่งแปลกปลอมและทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง ในทางกลับกัน ผู้ที่มี Rh บวก (+) สามารถรับเลือดจากผู้ที่มี Rh ลบ (-) ได้โดยไม่มีปัญหา

นอกจากเรื่องการถ่ายเลือดแล้ว Rh ยังมีความสำคัญอย่างยิ่งในระหว่างตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่แม่มีหมู่เลือด Rh ลบ (-) และพ่อมีหมู่เลือด Rh บวก (+) หากทารกได้รับมรดกหมู่เลือด Rh บวก (+) จากพ่อ เซลล์เม็ดเลือดแดงของทารกอาจผ่านเข้าสู่กระแสเลือดของแม่ ทำให้แม่สร้างแอนติบอดีต่อต้าน RhD ในครรภ์แรก อาจไม่เกิดปัญหา แต่ในครรภ์ต่อๆ ไป แอนติบอดีเหล่านี้อาจผ่านรกไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของทารก นำไปสู่ภาวะโรคเฮโมไลติกในทารกแรกเกิด (Hemolytic disease of the newborn) ซึ่งอาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ปัจจุบันมีการใช้การฉีด Rho(D) immunoglobulin เพื่อป้องกันภาวะนี้ได้ โดยการฉีดจะช่วยทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงของทารกที่เข้าสู่กระแสเลือดของแม่ ก่อนที่แม่จะสร้างแอนติบอดีขึ้นมา

ดังนั้น Rh จึงไม่ใช่แค่ตัวอักษรธรรมดา แต่เป็นตัวแปรสำคัญทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิต การรู้หมู่เลือด Rh ของตนเองและคนในครอบครัว จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อการเตรียมตัวและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ หากมีข้อสงสัยใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์โลหิตวิทยา เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป