กระดูกคอเสื่อมห้ามทำอะไร

4 การดู

รักษาสุขภาพกระดูกคอด้วยการหลีกเลี่ยงท่าทางที่เสี่ยง เช่น การก้มเงยคอแรงๆ หรือหันคอบ่อยครั้ง ควรหลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องก้มหรือเงยคอเป็นเวลานาน เลือกหมอนที่รองรับศีรษะและคอได้อย่างเหมาะสม และปรับท่านั่งทำงานให้ถูกต้องเพื่อลดการเสื่อมของกระดูกคอ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กระดูกคอเสื่อม: สิ่งที่คุณควรหลีกเลี่ยงเพื่อสุขภาพที่ดี

กระดูกคอเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ อาการต่างๆ เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ ปวดหัว ชาหรืออ่อนแรงที่แขนและมือ ล้วนบ่งบอกถึงความเสื่อมของกระดูกและข้อบริเวณคอ แม้ว่าการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แต่การป้องกันและการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการชะลอหรือป้องกันไม่ให้โรคร้ายแรงนี้ลุกลาม ดังนั้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ผู้ป่วยกระดูกคอเสื่อมหรือผู้ที่มีความเสี่ยงควรหลีกเลี่ยง:

1. ท่าทางที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บกระดูกคอ:

  • การก้มเงยคอแรงๆ หรือบ่อยครั้ง: การก้มหน้าเล่นมือถือเป็นเวลานาน การอ่านหนังสือในท่าที่ไม่ถูกต้อง หรือการหันคอไปมาอย่างรวดเร็วและบ่อยครั้ง ล้วนเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้น ควรฝึกฝนการทรงตัวและวางท่าทางให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการทำงานกับคอมพิวเตอร์ ควรปรับระดับหน้าจอให้เหมาะสมกับสายตา เพื่อลดการก้มคอ

  • การยกของหนัก: การยกของหนักโดยเฉพาะการยกของหนักที่ต้องใช้แรงมากกับลำคอ สามารถสร้างแรงกดที่กระดูกคอได้ ควรใช้เทคนิคการยกของที่ถูกต้อง หรือหากจำเป็นต้องยกของหนักควรขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น

  • การนอนตะแคงโดยใช้หมอนสูงหรือหมอนที่ไม่เหมาะสม: หมอนที่สูงเกินไปหรือแบนเกินไป จะทำให้กระดูกคออยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องขณะนอนหลับ ส่งผลให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและเร่งการเสื่อมของกระดูกคอ ควรเลือกใช้หมอนที่รองรับศีรษะและคอได้อย่างเหมาะสม มีความสูงพอดีกับช่วงคอ และไม่แข็งหรืออ่อนจนเกินไป

  • การนั่งหลังงอหรือท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง: ท่านั่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การนั่งหลังค่อมหรือหลังงอเป็นเวลานาน จะสร้างแรงกดทับที่กระดูกคอ ทำให้เกิดอาการปวดและเสื่อมเร็วขึ้น ควรฝึกฝนการนั่งหลังตรง ใช้เก้าอี้ที่รองรับสรีระได้ดี และหมั่นเปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ

2. การทำงานหรือกิจกรรมที่ต้องใช้คอเป็นเวลานาน:

  • การทำงานที่ต้องก้มเงยคอเป็นเวลานาน: เช่น การทำงานเย็บปักถักร้อย การทำงานฝีมือ หรือการทำงานที่ต้องมองจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ควรแบ่งเวลาพักเพื่อยืดเหยียดคอและเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อลดแรงกดทับที่กระดูกคอ

  • การเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บคอ: เช่น กีฬาชนิดที่ต้องมีการปะทะหรือการกระแทกอย่างแรง ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการเล่นกีฬาที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บคอหากมีอาการของกระดูกคอเสื่อมอยู่แล้ว

3. ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรหลีกเลี่ยง:

  • การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวม รวมถึงการลดการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงกระดูกและข้อ ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้น

  • ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกิน: น้ำหนักตัวที่มากเกินไปจะสร้างแรงกดทับที่กระดูกคอ เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกคอเสื่อม

การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่เหมาะสม การรักษาสุขภาพโดยรวม และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยชะลอการเสื่อมของกระดูกคอ และช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ หากมีอาการปวดคออย่างต่อเนื่อง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นโรคร้ายแรงในอนาคต