กระดูกสันหลัง เสื่อม รักษา อย่างไร

3 การดู

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำใหม่

การรักษาภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมมีหลากหลายวิธี ทั้งการใช้ยา กายภาพบำบัด การใช้อุปกรณ์พยุง และการฉีดยาลดอาการปวด ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อแก้ไขปัญหาที่รุนแรง เช่น การกดทับเส้นประสาทหรือการคดของกระดูกสันหลัง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กระดูกสันหลังเสื่อม: เข้าใจ, ดูแล, และรักษาอย่างถูกวิธี

กระดูกสันหลังของเราเปรียบเสมือนเสาหลักของร่างกาย คอยรองรับน้ำหนักและช่วยให้เราเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่เมื่อเวลาผ่านไป กระดูกสันหลังก็อาจเกิดการเสื่อมสภาพได้ ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยโดยเฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในคนหนุ่มสาวที่ใช้งานร่างกายหนักเกินไป หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมอย่างละเอียด รวมถึงแนวทางการดูแลรักษาที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กระดูกสันหลังเสื่อมคืออะไร?

กระดูกสันหลังเสื่อม (Spondylosis) คือภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อโครงสร้างของกระดูกสันหลังเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามอายุการใช้งาน อาจเกิดจากการที่หมอนรองกระดูกสันหลังแห้งและบางลง ทำให้ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังแคบลง นอกจากนี้ กระดูกอ่อนที่ข้อต่อ Facet (ข้อต่อเล็กๆ ที่เชื่อมกระดูกสันหลังแต่ละข้อ) อาจสึกหรอ ทำให้เกิดกระดูกงอก (Osteophyte) หรือหินปูนขึ้นมา

อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม:

อาการของกระดูกสันหลังเสื่อมมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและความรุนแรงของการเสื่อมสภาพ อาการที่พบบ่อย ได้แก่:

  • ปวดหลัง: อาการปวดอาจเป็นแบบเรื้อรัง (ปวดเป็นเวลานาน) หรือเป็นๆ หายๆ และอาจปวดร้าวลงขา หรือแขน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เสื่อม
  • ข้อฝืด: รู้สึกตึงและเคลื่อนไหวลำบาก โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือหลังจากการนั่งหรืออยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานาน
  • อาการชาหรืออ่อนแรง: หากกระดูกงอกหรือหมอนรองกระดูกที่เสื่อมสภาพไปกดทับเส้นประสาท อาจทำให้เกิดอาการชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเหมือนมีเข็มทิ่มตามแขนขา
  • การทรงตัวไม่ดี: ในกรณีที่กระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม อาจส่งผลต่อการทรงตัว ทำให้รู้สึกเวียนหัว หรือเสียสมดุล

การวินิจฉัยภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม:

การวินิจฉัยโดยทั่วไปเริ่มต้นจากการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด หากแพทย์สงสัยว่าคุณมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม อาจมีการส่งตรวจเพิ่มเติม เช่น:

  • เอกซเรย์: เพื่อดูความผิดปกติของกระดูกสันหลัง เช่น กระดูกงอก ช่องว่างระหว่างกระดูกสันหลังแคบลง
  • MRI (Magnetic Resonance Imaging): เพื่อดูเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หมอนรองกระดูกสันหลัง เส้นประสาท และกล้ามเนื้อ เพื่อประเมินความเสียหายและการกดทับ
  • CT Scan (Computed Tomography): เพื่อดูรายละเอียดของกระดูกสันหลังอย่างละเอียด

แนวทางการรักษาภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม:

การรักษากระดูกสันหลังเสื่อมมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบ และฟื้นฟูการทำงานของกระดูกสันหลัง โดยทั่วไปจะเริ่มต้นด้วยวิธีการรักษาแบบประคับประคอง และพิจารณาการผ่าตัดในกรณีที่อาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ

1. การรักษาแบบประคับประคอง:

  • การใช้ยา:
    • ยาแก้ปวด: เช่น พาราเซตามอล ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs (เช่น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน) เพื่อบรรเทาอาการปวด
    • ยาคลายกล้ามเนื้อ: เพื่อลดอาการกล้ามเนื้อเกร็ง
    • ยาแก้ปวดเส้นประสาท: เช่น กาบาเพนติน พรีกาบาลิน ในกรณีที่มีอาการปวดจากเส้นประสาทถูกกดทับ
  • กายภาพบำบัด: นักกายภาพบำบัดจะออกแบบโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง เพิ่มความยืดหยุ่น ลดอาการปวด และปรับปรุงการเคลื่อนไหว
  • การใช้อุปกรณ์พยุง: การใส่เสื้อพยุงหลัง (Brace) หรือปลอกคอ (Cervical collar) สามารถช่วยจำกัดการเคลื่อนไหว ลดอาการปวด และให้กระดูกสันหลังได้พัก
  • การประคบเย็นหรือประคบร้อน: การประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการอักเสบในช่วงแรก ส่วนการประคบร้อนสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดเรื้อรัง
  • การฉีดยา:
    • การฉีดสเตียรอยด์: เพื่อลดการอักเสบและอาการปวด
    • การฉีดน้ำเลี้ยงข้อ: เพื่อเพิ่มความหล่อลื่นในข้อต่อ Facet
    • การฉีดโบทูลินั่มท็อกซิน (Botox): เพื่อคลายกล้ามเนื้อที่เกร็ง

2. การผ่าตัด:

การผ่าตัดมักพิจารณาในกรณีที่อาการรุนแรง เช่น มีการกดทับเส้นประสาทอย่างมาก หรือมีภาวะกระดูกสันหลังคดที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆ การผ่าตัดอาจรวมถึง:

  • การตัดกระดูกงอก: เพื่อลดการกดทับเส้นประสาท
  • การเชื่อมข้อกระดูกสันหลัง (Spinal Fusion): เพื่อทำให้กระดูกสันหลังสองข้อหรือมากกว่านั้นติดกัน เพื่อลดการเคลื่อนไหวและอาการปวด
  • การใส่หมอนรองกระดูกสันหลังเทียม: เพื่อทดแทนหมอนรองกระดูกที่เสื่อมสภาพ

การดูแลตัวเองเพื่อป้องกันและชะลอความเสื่อมของกระดูกสันหลัง:

  • รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ: น้ำหนักที่มากเกินไปจะเพิ่มภาระให้กับกระดูกสันหลัง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: เน้นการออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลัง และเพิ่มความยืดหยุ่น
  • รักษาสุขภาพหลังที่ดี: ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ยืน หรือยกของ ต้องอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง
  • งดสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของกระดูกและหมอนรองกระดูกสันหลัง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก

สรุป:

ภาวะกระดูกสันหลังเสื่อมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การทำความเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และแนวทางการรักษาที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสงสัยว่าตนเองมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม อย่าปล่อยให้อาการปวดหลังเรื้อรังมาบั่นทอนคุณภาพชีวิตของคุณ เริ่มต้นดูแลกระดูกสันหลังของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว