กล้ามเนื้ออักเสบมีอาการอย่างไร

กล้ามเนื้ออักเสบ: อาการที่ไม่ควรมองข้าม และสัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ

อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นสิ่งที่ใครหลายคนเคยประสบพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นหลังจากการออกกำลังกายอย่างหนัก ทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน หรือแม้กระทั่งความเครียดสะสม แต่ในบางครั้งอาการปวดกล้ามเนื้อเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะที่ร้ายแรงกว่านั้น นั่นคือ “กล้ามเนื้ออักเสบ”

กล้ามเนื้ออักเสบ (Myositis) เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากการอักเสบของกล้ามเนื้อลาย ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกายตามคำสั่งของสมอง การอักเสบนี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือปรสิต โรคภูมิต้านตนเอง (Autoimmune diseases) การใช้ยาบางชนิด หรือแม้กระทั่งการได้รับบาดเจ็บซ้ำๆ

อาการของกล้ามเนื้ออักเสบ: มากกว่าแค่ปวดเมื่อย

อาการของกล้ามเนื้ออักเสบมีความหลากหลายและอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค สาเหตุ และความรุนแรงของการอักเสบ อย่างไรก็ตาม อาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้:

• ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง: อาการปวดอาจเริ่มจากบริเวณใดบริเวณหนึ่ง แล้วค่อยๆ ลุกลามไปยังบริเวณอื่นๆ โดยเฉพาะบริเวณต้นแขน ต้นขา สะโพก และหลัง อาการปวดอาจเป็นแบบตื้อๆ หนักๆ หรือปวดแปลบๆ และอาจแย่ลงเมื่อเคลื่อนไหว
• กล้ามเนื้ออ่อนแรง: เป็นอาการที่สำคัญและเด่นชัดของกล้ามเนื้ออักเสบ โดยเฉพาะบริเวณต้นแขนและต้นขา ทำให้การยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ การลุกนั่งจากเก้าอี้ หรือการเดินขึ้นบันไดเป็นไปได้ยากลำบาก
• เมื่อยล้า: ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม
• กลืนลำบาก: กล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนอาจได้รับผลกระทบ ทำให้การกลืนอาหารหรือน้ำเป็นไปได้ยากขึ้น และอาจมีอาการสำลัก
• หายใจลำบาก: ในกรณีที่รุนแรง กล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจอาจได้รับผลกระทบ ทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก เหนื่อยหอบ หรือมีอาการเจ็บหน้าอก
• ผื่นผิวหนัง: กล้ามเนื้ออักเสบบางชนิด เช่น Polymyositis และ Dermatomyositis อาจมีผื่นผิวหนังร่วมด้วย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า หนังศีรษะ หรือข้อนิ้ว
• อาการอื่นๆ: ขึ้นอยู่กับชนิดของกล้ามเนื้ออักเสบ ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่นๆ เช่น ไข้ต่ำๆ ข้ออักเสบ น้ำหนักลด หรือมีอาการผิดปกติที่อวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ ปอด หรือไต

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

หากคุณมีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง อ่อนแรงโดยเฉพาะบริเวณต้นแขนและต้นขา ลุกนั่งลำบาก หรือยกแขนไม่ขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม การวินิจฉัยและรักษาที่รวดเร็วจะช่วยลดความรุนแรงของอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น กลืนลำบาก หายใจลำบาก หรือมีผื่นผิวหนังร่วมด้วย

การวินิจฉัยและการรักษา

แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือดเพื่อวัดระดับเอนไซม์กล้ามเนื้อ การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (Electromyography – EMG) หรือการตัดชิ้นเนื้อกล้ามเนื้อ (Muscle biopsy) เพื่อยืนยันการวินิจฉัยและหาสาเหตุของการอักเสบ

การรักษาจะขึ้นอยู่กับชนิดและสาเหตุของกล้ามเนื้ออักเสบ โดยอาจรวมถึงการใช้ยา เช่น สเตียรอยด์ (Corticosteroids) ยาภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants) หรือยาอื่นๆ การทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้อาการแย่ลง

บทสรุป

กล้ามเนื้ออักเสบเป็นภาวะที่อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตอย่างมาก การตระหนักถึงอาการและสัญญาณเตือนของโรค การเข้ารับการวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการ ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข