อาการตาบวมเหมือนโดนต่อยเกิดจากอะไร

1 การดู

ตาบวมข้างเดียวคล้ายถูกต่อย อาจเกิดจากการติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือการอักเสบของต่อมไขมันในเปลือกตา ควรประคบเย็นลดบวม งดขยี้ตา และพบแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง เช่น ยาต้านการอักเสบหรือยาฆ่าเชื้อ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาชั่วคราว

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ตาบวมเหมือนโดนต่อย! สาเหตุและวิธีรับมือเบื้องต้น

อาการตาบวมขึ้นมาอย่างกะทันหันราวกับโดนต่อยนั้นสร้างความกังวลใจได้ไม่น้อย ความบวมที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากสาเหตุหลากหลาย ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อยไปจนถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างเร่งด่วน บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ตาบวมคล้ายถูกต่อย พร้อมทั้งวิธีรับมือเบื้องต้นและเมื่อใดควรไปพบแพทย์

สาเหตุที่ทำให้ตาบวมเหมือนโดนต่อย:

การบวมของตาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีลักษณะคล้ายถูกต่อยนั้น อาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็นกลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้:

  • การบาดเจ็บ: นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย อาจเกิดจากการถูกกระแทกโดยตรง การขีดข่วน หรือการได้รับบาดเจ็บอื่นๆ บริเวณดวงตา ส่งผลให้เกิดการอักเสบและบวม ในกรณีที่รุนแรงอาจมีเลือดออกภายในเปลือกตาได้

  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อต่างๆ เช่น ไข้หวัดใหญ่ หวัดธรรมดา หรือไซนัสอักเสบ สามารถทำให้ตาบวมได้เนื่องจากการอักเสบที่กระจายไปยังบริเวณรอบดวงตา นอกจากนี้ การติดเชื้อที่ตาโดยตรง เช่น เยื่อบุตาอักเสบ (Conjunctivitis) หรือต่อมไขมันในเปลือกตาอักเสบ (Blepharitis) ก็เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยเช่นกัน

  • การแพ้: การแพ้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ละอองเกสร ฝุ่นละออง หรือเครื่องสำอาง สามารถกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทำให้เยื่อบุตาบวม คัน และน้ำตาไหล อาการนี้มักมาพร้อมกับอาการคันจมูก คัดจมูก หรือไอ

  • การอักเสบของต่อมน้ำตา: การอักเสบของต่อมน้ำตา (Dacryoadenitis) อาจทำให้เกิดอาการบวมบริเวณเปลือกตาบน มักมีอาการเจ็บและอักเสบร่วมด้วย

  • โรคอื่นๆ: ในบางกรณี อาการตาบวมอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ เช่น โรคไต โรคหัวใจ หรือภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีรับมือเบื้องต้น:

  • ประคบเย็น: การประคบเย็นด้วยผ้าสะอาดที่แช่ในน้ำเย็นหรือน้ำแข็งห่อด้วยผ้า สามารถช่วยลดอาการบวมและอักเสบได้ ควรประคบประมาณ 10-15 นาทีต่อครั้ง หลายๆ ครั้งต่อวัน

  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา: การขยี้ตาจะยิ่งทำให้อาการบวมรุนแรงขึ้น และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

  • งดใช้เครื่องสำอาง: ควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตาชั่วคราว เพื่อป้องกันการระคายเคืองและการติดเชื้อ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้เร็วขึ้น

เมื่อใดควรไปพบแพทย์:

ควรไปพบแพทย์หากอาการตาบวมไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดตาอย่างรุนแรง มองเห็นภาพไม่ชัด มีไข้ หรือมีหนองไหลออกจากตา แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริงและให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงยาต้านการอักเสบ ยาฆ่าเชื้อ หรือการรักษาอื่นๆ ตามความเหมาะสม

การตาบวมที่คล้ายกับโดนต่อยอาจเป็นเพียงอาการเล็กน้อย แต่ก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ การสังเกตอาการ ดูแลตัวเองเบื้องต้น และการปรึกษาแพทย์เมื่อจำเป็น เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพดวงตาให้แข็งแรงอยู่เสมอ