กล้ามเนื้อเต้นตุบๆเกิดจากอะไร

เต้นตุบๆ ใต้ผิวหนัง: ไขปริศนากล้ามเนื้อกระตุก

เคยรู้สึกเหมือนมีอะไรเต้นตุบๆ อยู่ใต้ผิวหนังบ้างไหม? อาการนี้ที่เรามักเรียกกันว่า “กล้ามเนื้อกระตุก” หรือบางครั้งเรียกว่า “กล้ามเนื้อเต้น” เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แม้จะไม่ใช่อาการที่ร้ายแรงเสมอไป แต่ก็สร้างความรำคาญใจได้ไม่น้อย บทความนี้จะพาไปสำรวจสาเหตุของกล้ามเนื้อกระตุก และวิธีรับมือกับอาการที่น่ารำคาญนี้

อาการกล้ามเนื้อกระตุก เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้ มักเกิดขึ้นในกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ เช่น เปลือกตา, ริมฝีปาก, นิ้วมือ, หรือแม้แต่บริเวณใบหน้า โดยส่วนใหญ่ อาการมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและหายไปเอง แต่บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเป็นอยู่นานจนน่ากังวล

หนึ่งในสาเหตุหลักของกล้ามเนื้อกระตุกคือ ความไม่สมดุลของสาร electrolytes ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียม การขาดน้ำ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากเกินไป หรือการสูญเสียเหงื่อปริมาณมากจากการออกกำลังกาย ล้วนส่งผลต่อระดับ electrolytes ในร่างกาย ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดกล้ามเนื้อกระตุกได้

นอกจากนี้ ความเครียด วิตกกังวล และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กล้ามเนื้อตึงเครียดและเกิดอาการกระตุกได้เช่นกัน ภาวะเครียดเรื้อรังส่งผลให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด ซึ่งกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหดตัว ยิ่งพักผ่อนน้อย ร่างกายก็ยิ่งฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าและกระตุกได้ง่ายขึ้น

ในบางกรณี กล้ามเนื้อกระตุกอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคเกี่ยวกับระบบประสาท หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด หากอาการกล้ามเนื้อกระตุกเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รุนแรง หรือเป็นอยู่นาน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

การดูแลตัวเองเบื้องต้นเพื่อลดอาการกล้ามเนื้อกระตุก สามารถทำได้โดย ดื่มน้ำให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียม โพแทสเซียม และแคลเซียมสูง เช่น กล้วย ผักใบเขียว นม และโยเกิร์ต พักผ่อนให้เพียงพอ จัดการความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกายเบาๆ การฝึกสมาธิ หรือการฟังเพลง และ หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ

แม้ว่ากล้ามเนื้อกระตุกส่วนใหญ่มักไม่เป็นอันตราย แต่การใส่ใจดูแลสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหมั่นสังเกตอาการของตนเอง จะช่วยลดโอกาสการเกิดอาการ และทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน