การเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยในสถานการณ์ที่เกิดเหตุจะต้องปฏิบัติอย่างไร

6 การดู

พบเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ ประเมินสภาพผู้บาดเจ็บเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว โทรแจ้งหน่วยกู้ภัย 1669 ระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน แจ้งอาการสำคัญคร่าวๆ และจำนวนผู้บาดเจ็บ อย่าเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเว้นแต่จำเป็น รอเจ้าหน้าที่มืออาชีพมาถึง รักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ.

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

คู่มือฉบับรวบรัด: การช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้น ณ จุดเกิดเหตุ อย่างถูกวิธี

เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ ณ จุดเกิดเหตุ ความสับสนและความตื่นตระหนกอาจเข้าครอบงำได้ง่าย อย่างไรก็ตาม การควบคุมสติและการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยได้อย่างมาก บทความนี้จะนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยเบื้องต้นอย่างเป็นระบบ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้มั่นใจว่าคุณจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินจะมาถึง

ขั้นตอนที่ 1: พบเหตุฉุกเฉิน… หยุด! สังเกต! ประเมิน!

เมื่อพบเห็นเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ หยุด หายใจลึกๆ เพื่อรวบรวมสติ สังเกต สถานการณ์โดยรอบอย่างละเอียด มองหาอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไฟไหม้, สายไฟขาด, การจราจร, หรือสารเคมีรั่วไหล ก่อนที่จะเข้าไปช่วยเหลือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณนั้นปลอดภัยทั้งสำหรับคุณและผู้ป่วย

จากนั้น ประเมิน สภาพของผู้บาดเจ็บเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว ดูว่าผู้ป่วยรู้สึกตัวหรือไม่ หายใจเองได้หรือไม่ มีเลือดออกมากหรือไม่ การประเมินอย่างรวดเร็วนี้จะช่วยให้คุณทราบถึงความเร่งด่วนของสถานการณ์และลำดับความสำคัญในการให้ความช่วยเหลือ

ขั้นตอนที่ 2: โทรแจ้ง 1669 – สายด่วนชีวิต

เมื่อประเมินสถานการณ์เบื้องต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือการโทรแจ้งหน่วยกู้ภัย 1669 ให้ข้อมูลที่ชัดเจนและแม่นยำ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งทีมกู้ภัยมายังจุดเกิดเหตุได้อย่างรวดเร็วและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม

  • ระบุตำแหน่งที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน: บอกรายละเอียดของสถานที่, จุดสังเกต, หรือข้อมูลที่สามารถนำทางเจ้าหน้าที่มาถึงได้อย่างถูกต้อง
  • แจ้งอาการสำคัญคร่าวๆ: บอกอาการที่พบเห็น เช่น หมดสติ, หายใจลำบาก, เลือดออกมาก, หรืออาการเจ็บปวด
  • แจ้งจำนวนผู้บาดเจ็บ: ระบุจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถจัดส่งทีมกู้ภัยและอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้อย่างเพียงพอ

ขั้นตอนที่ 3: รอคอยอย่างระมัดระวัง – “อย่าเคลื่อนย้าย” เว้นแต่จำเป็นสุดวิสัย

โดยทั่วไปแล้ว ไม่ควรเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นสุดวิสัย เช่น สถานที่เกิดเหตุไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง (เช่น ไฟไหม้, อาคารถล่ม) หรือจำเป็นต้องให้การปฐมพยาบาลเร่งด่วนที่ไม่สามารถทำได้ในที่เดิม การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างไม่ถูกต้อง อาจทำให้การบาดเจ็บที่มีอยู่เดิมรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสงสัยว่าผู้ป่วยอาจมีการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง

ระหว่างรอเจ้าหน้าที่มืออาชีพมาถึง ให้ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ จัดการจราจร หรือแจ้งเตือนผู้คนที่สัญจรไปมา เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

ขั้นตอนที่ 4: การปฐมพยาบาลเบื้องต้น – เมื่อความรู้คือพลัง

หากมีความรู้และทักษะในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น สามารถให้การช่วยเหลือตามความเหมาะสม เช่น

  • การห้ามเลือด: กดบริเวณที่เลือดออกโดยตรงด้วยผ้าสะอาด
  • การจัดท่า: จัดท่านอนที่เหมาะสม (เช่น ท่านอนตะแคงฟื้นคืนสติ) หากผู้ป่วยหมดสติแต่ยังหายใจได้
  • การให้กำลังใจ: พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วยและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อลดความตื่นตระหนกและความเครียด

ข้อควรจำ:

  • ความปลอดภัยต้องมาก่อน: อย่าเสี่ยงอันตรายต่อตนเอง
  • ความรู้จำกัด: อย่าพยายามทำในสิ่งที่ไม่มั่นใจ
  • บันทึกข้อมูล: จดบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น อาการของผู้ป่วย, เวลาที่โทรแจ้ง 1669, และการปฐมพยาบาลที่ได้ให้ไป เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัย

การเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและกดดัน อย่างไรก็ตาม การเตรียมพร้อมด้วยความรู้, สติ, และการปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถสร้างความแตกต่าง และเพิ่มโอกาสรอดชีวิตให้กับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้

Disclaimer: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำทางการแพทย์จากผู้เชี่ยวชาญได้ ควรเข้ารับการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างเป็นทางการ เพื่อให้มีความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการช่วยเหลือผู้ป่วยในสถานการณ์ฉุกเฉิน