กินโยเกิร์ตทุกวันมีผลเสียไหม

กินโยเกิร์ตทุกวัน ดีจริงหรือ? ผลเสียที่อาจคาดไม่ถึง

โยเกิร์ต มักถูกยกให้เป็นอาหารสุขภาพ ย่อยง่าย อุดมไปด้วยโปรไบโอติกส์ที่ดีต่อลำไส้ หลายคนจึงนิยมรับประทานโยเกิร์ตเป็นประจำทุกวัน แต่การกินโยเกิร์ตทุกวันนั้นดีจริงหรือ? มีผลเสียอะไรที่เราอาจคาดไม่ถึงบ้าง?

แม้โยเกิร์ตจะมีประโยชน์มากมาย แต่การบริโภคอะไรที่มากเกินไปย่อมส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน การกินโยเกิร์ตทุกวันก็เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเลือกโยเกิร์ตผิดประเภท แทนที่จะได้สุขภาพที่ดี กลับอาจได้รับผลเสียโดยไม่รู้ตัว

ผลเสียจากการกินโยเกิร์ตทุกวันที่อาจเกิดขึ้นได้:

• น้ำตาลสะสม: โยเกิร์ตหลายยี่ห้อในท้องตลาด มักเติมน้ำตาลเพื่อเพิ่มรสชาติ การกินโยเกิร์ตที่มีน้ำตาลสูงทุกวัน อาจนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกิน เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ดังนั้น การเลือกโยเกิร์ตชนิดน้ำตาลน้อย หรือนมเปรี้ยวธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งสำคัญ และสามารถเติมความหวานตามธรรมชาติด้วยผลไม้สด เช่น เบอร์รี่ กล้วย หรือแอปเปิ้ล แทนการเลือกโยเกิร์ตรสหวานจัด
• ปัญหาสำหรับผู้ที่แพ้นมวัว: โยเกิร์ตทำจากนมวัว ดังนั้นผู้ที่แพ้นมวัว หรือแพ้แลคโตส ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโยเกิร์ต หรือเลือกโยเกิร์ตที่ทำจากนมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ หรือนมชนิดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์จากนมวัวแทน
• ผลข้างเคียงจากโปรไบโอติกส์: แม้โปรไบโอติกส์ในโยเกิร์ตจะดีต่อสุขภาพลำไส้ แต่ในบางราย การรับประทานโปรไบโอติกส์มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือมีแก๊สในกระเพาะอาหารได้ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเริ่มรับประทาน
• ปริมาณแคลอรี่: แม้โยเกิร์ตจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ แต่ก็มีแคลอรี่ การกินโยเกิร์ตในปริมาณมากเกินไปโดยไม่ควบคุมปริมาณแคลอรี่โดยรวม อาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้

เลือกโยเกิร์ตอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?

• เลือกโยเกิร์ตชนิดธรรมชาติ ไม่เติมน้ำตาล หรือน้ำตาลน้อย
• ดูฉลากโภชนาการ ตรวจสอบปริมาณน้ำตาล ไขมัน และแคลอรี่
• เลือกโยเกิร์ตที่มีโปรไบโอติกส์ที่มีชีวิต
• สามารถเติมผลไม้สด ถั่ว หรือธัญพืช เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติ

สรุปแล้ว การกินโยเกิร์ตทุกวันไม่ใช่เรื่องเสียหาย หากเลือกโยเกิร์ตที่เหมาะสม และรับประทานในปริมาณที่พอดี ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน.