ก่อนทำศัลยกรรมต้องตรวจอะไรบ้าง

5 การดู

ก่อนผ่าตัด คุณควรตรวจสุขภาพทั่วไปกับแพทย์ รวมถึงการตรวจเลือดเพื่อประเมินค่าเม็ดเลือด การทำงานของตับและไต และการตรวจปัสสาวะ นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำการตรวจอื่นๆ เช่น เอกซเรย์ทรวงอก หรือการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดและสุขภาพโดยรวมของคุณ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ก่อนเข้าห้องผ่าตัด: การตรวจสุขภาพที่คุณควรเตรียมตัว

การผ่าตัดเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่สำคัญ แม้ว่าจะเป็นการผ่าตัดเล็กน้อยก็ตาม การเตรียมตัวที่เหมาะสมก่อนการผ่าตัดจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวที่ดี นอกเหนือจากการเตรียมตัวด้านจิตใจและการเตรียมเอกสารต่างๆ แล้ว สิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ประเมินความพร้อมของร่างกายและวางแผนการผ่าตัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดนั้นจะแตกต่างกันไปตามประเภทและความซับซ้อนของการผ่าตัด แต่โดยทั่วไปแล้ว แพทย์จะเน้นการประเมินสภาพร่างกายโดยรวม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยอยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่จะเข้ารับการผ่าตัดและสามารถฟื้นตัวได้ดี การตรวจเหล่านี้อาจรวมถึง:

1. ประวัติสุขภาพและการตรวจร่างกาย: แพทย์จะสอบถามเกี่ยวกับประวัติสุขภาพของคุณอย่างละเอียด รวมถึงโรคประจำตัว ยาที่รับประทานอยู่ อาการแพ้ และการผ่าตัดในอดีต พร้อมทั้งทำการตรวจร่างกายทั่วไป เพื่อประเมินสภาพร่างกายโดยรวม ตรวจหาความผิดปกติต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการผ่าตัด เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน

2. การตรวจเลือด: การตรวจเลือดเป็นส่วนสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัด ซึ่งอาจรวมถึง:

  • การตรวจนับเม็ดเลือด (Complete Blood Count – CBC): เพื่อตรวจสอบจำนวนเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด ซึ่งบ่งบอกถึงสุขภาพโดยรวมของระบบเลือด และความเสี่ยงต่อการมีเลือดออกขณะผ่าตัด
  • การตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test – LFT): เพื่อประเมินสุขภาพของตับ เนื่องจากตับมีบทบาทสำคัญในการกำจัดสารพิษและการเผาผลาญยา
  • การตรวจการทำงานของไต (Kidney Function Test – KFT): เพื่อประเมินสุขภาพของไต ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย และการขับยา
  • การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose): เพื่อตรวจหาภาวะเบาหวาน ซึ่งอาจส่งผลต่อการรักษาและการฟื้นตัวหลังผ่าตัด
  • การตรวจกลุ่มเลือด (Blood Typing and Crossmatching): จำเป็นในกรณีที่อาจต้องได้รับการถ่ายเลือดในระหว่างหรือหลังการผ่าตัด

3. การตรวจปัสสาวะ: เพื่อตรวจหาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ หรือความผิดปกติอื่นๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผ่าตัด

4. การตรวจอื่นๆ (ขึ้นอยู่กับประเภทและความซับซ้อนของการผ่าตัด):

  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG): เพื่อตรวจสอบการทำงานของหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ
  • การเอกซเรย์ทรวงอก (Chest X-ray): เพื่อตรวจหาความผิดปกติของปอด เช่น โรคปอดบวม หรือโรคปอดอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผ่าตัด
  • การตรวจอื่นๆ เช่น การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan), การถ่ายภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI), หรือการส่องกล้อง (Endoscopy): แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติมเหล่านี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัดและประวัติสุขภาพของผู้ป่วย เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้น และวางแผนการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ

สรุป: การตรวจสุขภาพก่อนการผ่าตัดเป็นขั้นตอนที่สำคัญ และไม่ควรมองข้าม การตรวจเหล่านี้ช่วยให้แพทย์ประเมินความเสี่ยง วางแผนการผ่าตัดให้เหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมกับตนเอง ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทุกครั้ง