ความดัน 197 สูงไหม

4 การดู

ความดันโลหิต 197/ (ตัวบน/ตัวล่าง) สูงมาก ต้องรีบพบแพทย์ทันที ค่าปกติของความดันโลหิตอยู่ที่ตัวบนไม่เกิน 140 และตัวล่างไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท ความดันสูงอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ขอแนะนำให้วัดความดันโลหิตเป็นประจำและปรึกษาแพทย์เพื่อการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ความดันโลหิต 197: ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

ความดันโลหิต 197 (ไม่ว่าตัวล่างจะเป็นเท่าใด) ถือเป็นค่าที่สูงมากและเป็นอันตรายอย่างยิ่ง คำว่า “สูง” ในที่นี้ไม่เพียงหมายถึงสูงกว่าค่าปกติเล็กน้อย แต่เป็นระดับที่บ่งชี้ถึงภาวะความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤต (Hypertensive Crisis) ซึ่งต้องการการรักษาพยาบาลโดยด่วน มิใช่แค่การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเล็กๆ น้อยๆ

ค่าความดันโลหิตปกติทั่วไปอยู่ที่ตัวบน (Systolic) ไม่เกิน 140 มิลลิเมตรปรอท และตัวล่าง (Diastolic) ไม่เกิน 90 มิลลิเมตรปรอท การที่มีค่าความดันโลหิตสูงถึง 197 หมายความว่าหัวใจต้องทำงานหนักขึ้นอย่างมากในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย แรงดันที่สูงผิดปกติเช่นนี้สามารถสร้างความเสียหายให้กับหลอดเลือด ไต สมอง และหัวใจ ส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจวาย ไตวาย และปัญหาสายตา

สิ่งที่อันตรายยิ่งกว่านั้นคือ ความดันโลหิตสูงระดับนี้มักไม่แสดงอาการใดๆ ผู้ป่วยอาจไม่รู้สึกผิดปกติใดๆ จนกระทั่งเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาแล้ว ดังนั้น การตรวจสุขภาพประจำปีและการวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เช่น อายุมาก มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง มีน้ำหนักเกิน สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีค่าความดันโลหิต 197 โปรดไปพบแพทย์ทันที อย่ารอให้เกิดอาการใดๆ ขึ้นก่อน การรักษาที่รวดเร็วและทันท่วงทีจะช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและให้การรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้ยา การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการลดน้ำหนัก รวมถึงการให้คำแนะนำในการบริหารจัดการความเครียด

อย่ามองข้ามความดันโลหิตสูง มันคือภัยเงียบที่ค่อยๆกัดกร่อนสุขภาพของคุณ การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอและการรับมือกับปัญหาอย่างทันท่วงทีจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีและมีชีวิตที่ยืนยาวได้

หมายเหตุ: บทความนี้ให้ข้อมูลเพื่อการศึกษาและสร้างความเข้าใจเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์ กรุณาปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ