ค่าไขมันในเลือดปกติเท่าไร

1 การดู

ไตรกลีเซอไรด์คือประเภทของไขมันในเลือด ปริมาณที่เหมาะสมอยู่ในช่วง 30-150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ไขมันในเลือด: รู้ค่าปกติ เข้าใจความเสี่ยง เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

หลายคนอาจคุ้นเคยกับการตรวจสุขภาพประจำปี และหนึ่งในผลตรวจที่สำคัญคือ “ค่าไขมันในเลือด” ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพที่สำคัญ และสามารถส่งผลต่อความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่ “ค่าไขมันในเลือดปกติ” ที่ว่านี้คือเท่าไหร่กันแน่? และแต่ละค่ามีความหมายอย่างไร? บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้กระจ่างมากยิ่งขึ้น

ทำความเข้าใจไขมันในเลือด: มากกว่าแค่ไตรกลีเซอไรด์

เมื่อพูดถึงไขมันในเลือด หลายคนมักนึกถึง “ไตรกลีเซอไรด์” เป็นอันดับแรก ซึ่งก็ถูกต้อง เพราะไตรกลีเซอไรด์เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในเลือด และเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย แต่ไขมันในเลือดไม่ได้มีแค่ไตรกลีเซอไรด์เท่านั้น ยังมีไขมันชนิดอื่นๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน ได้แก่:

  • ไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides): ไขมันที่ร่างกายสร้างขึ้นจากอาหารที่รับประทานเข้าไป รวมถึงคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่เหลือใช้ หากมีปริมาณมากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
    • ค่าปกติ: น้อยกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL)
  • คอเลสเตอรอลรวม (Total Cholesterol): ปริมาณคอเลสเตอรอลทั้งหมดในเลือด
    • ค่าปกติ: น้อยกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL)
  • คอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL-Cholesterol): หรือที่เรียกกันว่า “ไขมันดี” ช่วยนำคอเลสเตอรอลส่วนเกินออกจากหลอดเลือด และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
    • ค่าปกติ: มากกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) สำหรับผู้ชาย และมากกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) สำหรับผู้หญิง
  • คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Cholesterol): หรือที่เรียกกันว่า “ไขมันเลว” หากมีปริมาณมากเกินไป จะสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน และเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ
    • ค่าปกติ: น้อยกว่า 130 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร (mg/dL) สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ, น้อยกว่า 100 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงปานกลาง และน้อยกว่า 70 mg/dL สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง (เช่น ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หรือเบาหวาน)

ปัจจัยที่มีผลต่อค่าไขมันในเลือด

ค่าไขมันในเลือดของแต่ละคน อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่:

  • อาหาร: การบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอลสูง จะทำให้ระดับ LDL-Cholesterol และ Triglycerides เพิ่มสูงขึ้น
  • น้ำหนัก: คนที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน มักจะมีระดับ Triglycerides และ LDL-Cholesterol สูง
  • การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยลดระดับ Triglycerides และ LDL-Cholesterol และเพิ่มระดับ HDL-Cholesterol
  • อายุ: ระดับคอเลสเตอรอลมักจะเพิ่มขึ้นตามอายุ
  • พันธุกรรม: บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะมีระดับคอเลสเตอรอลสูง เนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรม
  • โรคประจำตัว: บางโรค เช่น เบาหวาน โรคไต และโรคต่อมไทรอยด์ อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด
  • ยาบางชนิด: ยาบางชนิด อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด

เมื่อค่าไขมันในเลือดผิดปกติ: จะเกิดอะไรขึ้น?

หากค่าไขมันในเลือดสูงเกินไป โดยเฉพาะ LDL-Cholesterol และ Triglycerides จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ได้แก่:

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด: ภาวะไขมันในเลือดสูง ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดตีบแคบ และแข็งตัว ส่งผลให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ
  • ตับอ่อนอักเสบ: ระดับ Triglycerides ที่สูงมาก อาจทำให้เกิดภาวะตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน
  • ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ: ไขมันในเลือดสูง อาจส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย และเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน และโรคไต

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อควบคุมไขมันในเลือด

ข่าวดีคือ คุณสามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ดังนี้:

  • ควบคุมอาหาร: ลดการบริโภคอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว ไขมันทรานส์ และคอเลสเตอรอลสูง เช่น เนื้อติดมัน หนังสัตว์ ของทอด อาหารแปรรูป และขนมหวาน เพิ่มการบริโภคผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และปลาที่มีไขมันดี
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: ออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์
  • ควบคุมน้ำหนัก: รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • เลิกสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่ ทำให้ระดับ HDL-Cholesterol ลดลง
  • ปรึกษาแพทย์: หากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไม่สามารถควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ แพทย์อาจพิจารณาให้ใช้ยา

สรุป

การทำความเข้าใจค่าไขมันในเลือด และการดูแลรักษาสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น การตรวจสุขภาพประจำปี และการปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ เป็นแนวทางที่ดีในการดูแลสุขภาพของคุณให้แข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน