ค่าไตระดับไหนอันตราย
ค่า eGFR ต่ำกว่า 15 หมายถึงไตทำงานน้อยมาก อาจถึงขั้นไตวายระยะสุดท้าย จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน เช่น การฟอกไต หรือปลูกถ่ายไต
ค่าไตระดับไหนอันตราย? เส้นแบ่งระหว่างสุขภาพไตที่ดีและวิกฤต
ไตเป็นอวัยวะสำคัญที่ทำหน้าที่กรองของเสียและของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย การทำงานของไตที่ดีจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม การตรวจสุขภาพไตจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการผิดปกติ หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคไต
หนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพไต คือ eGFR (Estimated Glomerular Filtration Rate) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอัตราการกรองของเสียจากเลือดผ่านหน่วยไต ค่า eGFR ที่ต่ำหมายถึงไตทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไตวาย
แล้วค่า eGFR ต่ำระดับไหนถึงถือว่าอันตราย? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขเดียว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ เพศ และสภาพร่างกายโดยรวม อย่างไรก็ตาม มีเกณฑ์ทั่วไปที่แพทย์ใช้เป็นแนวทางในการประเมิน โดยค่า eGFR ที่ต่ำกว่า 60 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 ตารางเมตร ถือว่ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตเรื้อรัง
เมื่อไหร่ควรวิตกกังวลเป็นพิเศษ?
-
eGFR ต่ำกว่า 15 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 ตารางเมตร: นี่คือระดับที่อันตรายอย่างยิ่ง บ่งบอกว่าไตทำงานได้น้อยมาก อาจถึงขั้น ไตวายระยะสุดท้าย (End-Stage Renal Disease: ESRD) ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยทั่วไปคือ การฟอกไต (Hemodialysis) หรือ การปลูกถ่ายไต (Kidney Transplant) เพื่อรักษาชีวิต การรักษาในขั้นตอนนี้มีความจำเป็นและเร่งด่วนที่สุด
-
eGFR ระหว่าง 15-29 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 ตารางเมตร: อยู่ในระดับไตวายระยะรุนแรง ผู้ป่วยมีอาการแสดงของโรคไตวายชัดเจน เช่น บวมน้ำ ความดันโลหิตสูง เหนื่อยล้า และปวดเมื่อย จำเป็นต้องได้รับการตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดและอาจต้องเริ่มการรักษาแบบถนอมไต หรือเตรียมตัวสำหรับการฟอกไตในอนาคต
-
eGFR ระหว่าง 30-59 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.73 ตารางเมตร: ถือว่าเป็นโรคไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น จำเป็นต้องได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยง เช่น ควบคุมอาหาร ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกาย และควบคุมโรคประจำตัว เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง เพื่อชะลอการดำเนินของโรค
สรุปแล้ว ค่า eGFR เป็นเพียงตัวชี้วัดหนึ่ง การวินิจฉัยโรคไตต้องอาศัยการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการตรวจร่างกาย ประวัติการเจ็บป่วย และการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ หากคุณมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพไต ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม การตรวจสุขภาพไตเป็นประจำ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง จะช่วยให้สามารถตรวจพบและรักษาโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ส่งผลให้มีโอกาสในการรักษาและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
หมายเหตุ: บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้ทั่วไปเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ กรุณาปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
#ค่าไต#ระดับอันตราย#สุขภาพไตข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต