จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคกระดูกพรุน

3 การดู

ข้อมูลแนะนำใหม่:

สังเกตสัญญาณเตือนโรคกระดูกพรุน เช่น ส่วนสูงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง อาการหลังค่อมที่เด่นชัดขึ้น หรืออาการปวดลึกๆ ภายในกระดูก โดยเฉพาะบริเวณหลังและขา หากพบว่ากระดูกเปราะบางและหักง่ายกว่าปกติหลังการล้ม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้ทันภัยเงียบ…โรคกระดูกพรุน ก่อนสายเกินแก้

โรคกระดูกพรุน เปรียบเสมือนภัยเงียบที่ค่อยๆ กัดกร่อนความแข็งแรงของกระดูก ทำให้กระดูกบางและเปราะ เสี่ยงต่อการแตกหักได้ง่ายแม้เพียงแค่การกระทบกระเทือนเล็กน้อย ซึ่งกว่าจะรู้ตัว หลายคนก็อยู่ในภาวะที่รุนแรงแล้ว ดังนั้น การสังเกตสัญญาณเตือนภัยและเข้ารับการตรวจวินิจฉัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้คุณรู้เท่าทันโรคกระดูกพรุน เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพกระดูกให้แข็งแรงอยู่เสมอ

การวินิจฉัยโรคกระดูกพรุนอย่างแม่นยำจำเป็นต้องอาศัยการตรวจวัดความหนาแน่นของมวลกระดูกด้วยเครื่องมือเฉพาะทาง เช่น เครื่อง DEXA Scan อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเตือนภัยบางอย่างที่สามารถบ่งชี้ถึงความเสี่ยงของโรคนี้ได้ ซึ่งหากคุณพบว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว ได้แก่:

  • การเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนร่างกาย: สังเกตความสูงที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง แม้เพียงเล็กน้อย หรือรู้สึกว่าหลังค่อมมากขึ้น อาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการทรุดตัวของกระดูกสันหลังอันเนื่องมาจากโรคกระดูกพรุน
  • อาการปวดลึกๆ ภายในกระดูก: โดยเฉพาะบริเวณหลังส่วนล่าง สะโพก และขา ซึ่งอาจเป็นอาการปวดเรื้อรังหรือปวดแบบเสียวแปล๊บๆ อาการปวดนี้อาจรุนแรงขึ้นเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย และมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการปวดเมื่อยทั่วไป แต่หากอาการปวดไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง
  • กระดูกหักง่ายผิดปกติ: หากคุณพบว่ากระดูกหักง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่น หกล้มเบาๆ แล้วกระดูกหัก หรือแม้กระทั่งการไอหรือจามอย่างรุนแรงก็ทำให้กระดูกซี่โครงหักได้ นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญของโรคกระดูกพรุน
  • ประวัติครอบครัว: หากมีคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่หรือพี่น้อง เคยเป็นโรคกระดูกพรุน คุณก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้สูงขึ้น ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพกระดูกเป็นประจำ

นอกจากสัญญาณเตือนภัยข้างต้น ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่เพิ่มโอกาสในการเกิดโรคกระดูกพรุน ได้แก่ เพศหญิง อายุที่เพิ่มมากขึ้น การขาดวิตามินดีและแคลเซียม การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาบางชนิด และภาวะสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรครูมาตอยด์ และโรคโครห์น

การดูแลสุขภาพกระดูกให้แข็งแรง เช่น การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมและวิตามินดีสูง การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคกระดูกพรุน และหากคุณสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพกระดูกที่แข็งแรงและคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว