ดูยังไงว่าขาดธาตุเหล็ก

0 การดู

อาการขาดธาตุเหล็กอาจแสดงออกเป็นความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง ร่วมกับเวียนศีรษะ ใจสั่น และผิวซีด นอกจากนี้ ยังพบอาการ ผมร่วงผิดปกติ และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาค่า Hb และ Ferritin เพื่อยืนยันการขาดธาตุเหล็กอย่างถูกต้อง

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

รู้ทันร่างกาย…สังเกตอาการขาดธาตุเหล็กอย่างไร?

ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายต้องการ มีบทบาทสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง นำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากร่างกายขาดธาตุเหล็กจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก อาจทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตได้ แต่เนื่องจากอาการขาดธาตุเหล็กอาจคล้ายคลึงกับอาการอื่นๆ การสังเกตอาการอย่างละเอียดจึงมีความสำคัญ ก่อนที่จะได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องจากแพทย์

อาการที่บ่งชี้ว่าคุณอาจกำลังขาดธาตุเหล็กนั้น ไม่ได้มีเพียงอาการ “ซีด” อย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่อาจแสดงออกในรูปแบบที่หลากหลาย อาการเหล่านี้มักค่อยๆ ปรากฏขึ้นและอาจรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการแก้ไข อาการที่พบได้บ่อย ได้แก่:

  • ความเหนื่อยล้าอย่างรุนแรง: นี่คืออาการเด่นชัดที่สุด ความเหนื่อยล้าไม่ใช่แค่ความรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย แต่เป็นความเหนื่อยล้าที่รุนแรง แม้จะพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ตาม รู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง ทำกิจกรรมต่างๆ ได้ยากขึ้น

  • เวียนศีรษะและมึนงง: การขาดธาตุเหล็กทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ส่งผลให้สมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ จึงอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ มึนงง และบางครั้งอาจถึงขั้นเป็นลมได้

  • ใจสั่นและหายใจถี่: การขาดออกซิเจนทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น เพื่อพยายามนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการใจสั่น และหายใจถี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะออกกำลังกาย

  • ผิวซีด: นี่เป็นอาการที่สังเกตได้ง่าย โดยเฉพาะบริเวณเยื่อบุตา ริมฝีปาก และเล็บ จะดูซีดกว่าปกติ

  • ผมร่วงผิดปกติ: ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์ รวมถึงเซลล์ผม การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ ผมบาง และอาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพของเส้นผม

  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ธาตุเหล็กมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน การขาดธาตุเหล็กจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

  • มือและเท้าเย็น: การไหลเวียนของโลหิตที่ไม่ดีเนื่องจากเม็ดเลือดแดงน้อย อาจทำให้มือและเท้าเย็นผิดปกติ

  • ลิ้นบวมและอักเสบ (Glossitis): ลิ้นอาจบวม แดง และเจ็บได้

  • ตะปูเล็บเปราะและบิ่นง่าย: เล็บอาจดูซีด เปราะบาง และแตกหักได้ง่าย

สิ่งสำคัญ: อาการเหล่านี้สามารถเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ได้เช่นกัน ดังนั้น หากคุณมีอาการดังกล่าว ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจเลือด โดยเฉพาะการตรวจค่าฮีโมโกลบิน (Hb) และเฟอร์ริติน (Ferritin) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ปริมาณธาตุเหล็กในร่างกายอย่างแม่นยำ แพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง และให้คำแนะนำในการรักษาที่เหมาะสม ไม่ควรซื้อยารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะการใช้ยาธาตุเหล็กที่ไม่ถูกต้องอาจเป็นอันตรายได้

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้