ทำยังไงให้ตัวหายบวม

6 การดู

ลดบวมน้ำด้วยการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ เลือกทานอาหารรสจืด ปรุงสดใหม่ เน้นผักผลไม้ขับปัสสาวะ เช่น แตงโม สับปะรด เคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

บวมน้ำ… แก้ไขได้! เคล็ดลับดูแลสุขภาพง่ายๆ เพื่อร่างกายที่กระชุ่มกระชวย

อาการบวมน้ำ (Edema) เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เกิดจากการสะสมของของเหลวในเนื้อเยื่อ ทำให้บริเวณต่างๆ ของร่างกายดูบวม อาการนี้ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการแสดงของโรคอื่นๆ ได้หลายอย่าง เช่น โรคหัวใจ ไต ตับ หรือแม้แต่ภาวะขาดสารอาหาร การรักษาจึงขึ้นอยู่กับสาเหตุของการบวมน้ำ แต่สำหรับการบรรเทาอาการบวมน้ำเบื้องต้น เรามีวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้เองที่บ้าน ดังนี้:

1. ดื่มน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ (แต่ไม่มากเกินไป): ฟังดูอาจขัดแย้ง แต่การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ คือกุญแจสำคัญในการลดบวมน้ำ ร่างกายจะใช้ระบบไตขับของเหลวส่วนเกินออกไป อย่างไรก็ตาม ควรดื่มน้ำอย่างเหมาะสม ไม่ควรดื่มน้ำมากเกินไปในคราวเดียว ควรกระจายการดื่มน้ำตลอดทั้งวัน การดื่มน้ำมากเกินไปอาจทำให้ไตทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้บวมน้ำมากขึ้นได้

2. เลือกทานอาหารรสจืด ปรุงสดใหม่ เน้นผักผลไม้ขับปัสสาวะ: การทานอาหารรสจัด เค็มจัด จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้มากขึ้น ควรเลือกทานอาหารรสจืด ปรุงสดใหม่ หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง และอาหารที่มีโซเดียมสูง ควรเน้นทานผักและผลไม้ที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เช่น แตงโม สับปะรด แตงกวา กล้วยน้ำว้า ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายขับของเหลวส่วนเกินออกไปได้ดีขึ้น

3. เพิ่มการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง ช่วยลดการสะสมของของเหลวในเนื้อเยื่อ การออกกำลังกายที่เหมาะสม เช่น การเดินเร็ว ว่ายน้ำ โยคะ หรือการออกกำลังกายแบบแอโรบิกอื่นๆ ควรเลือกชนิดและความหนักเบาของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของตนเอง

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงระบบขับถ่ายของเสีย ซึ่งจะช่วยลดอาการบวมน้ำได้ ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

5. ยกขาสูง: การยกขาสูงเป็นวิธีที่ช่วยให้ของเหลวไหลกลับเข้าสู่หัวใจได้ดีขึ้น ช่วยลดอาการบวมที่ขาและเท้า สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการนอนราบและยกขาสูงกว่าระดับหัวใจ

ข้อควรระวัง: หากอาการบวมน้ำไม่ดีขึ้น หรือมีอาการบวมร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น หายใจลำบาก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาการบวมน้ำอาจเป็นสัญญาณของโรคต่างๆ ที่ร้ายแรงได้

การลดอาการบวมน้ำเป็นเรื่องของการดูแลสุขภาพอย่างครบวงจร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพียงเล็กน้อย ก็สามารถช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดอาการบวมน้ำ และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน