เมื่อติดเชื้อ HPV ควรทําอย่างไร

เมื่อติดเชื้อ HPV ควรทำอย่างไร

ไวรัส HPV (Human papillomavirus) เป็นไวรัสที่พบได้ทั่วไปและสามารถติดได้ผ่านการสัมผัสทางเพศ ผู้ที่ติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่มักจะไม่มีอาการใดๆ และเชื้อจะหายไปเองตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม บางสายพันธุ์ของ HPV อาจทำให้เกิดหูดในบริเวณอวัยวะเพศหรือบริเวณอื่นๆ ของร่างกาย รวมถึงอาจก่อให้เกิดมะเร็งในบางกรณี

วิธีรับมือเมื่อติดเชื้อ HPV

หากคุณสงสัยว่าคุณอาจติดเชื้อ HPV หรือมีอาการที่อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ เช่น หูดในบริเวณอวัยวะเพศ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์จะซักถามเกี่ยวกับประวัติทางเพศของคุณ ตรวจร่างกาย และอาจทำการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการติดเชื้อ

หากได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HPV แพทย์จะแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึง:

• การติดตามอาการ: หากคุณไม่มีอาการใดๆ แพทย์อาจแนะนำให้อยู่ในระหว่างการสังเกตอาการเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงใดๆ
• การรักษาหูด: หากคุณมีหูด แพทย์อาจสั่งยาหรือทำหัตถการต่างๆ เพื่อกำจัดหูด เช่น การจี้ด้วยไนโตรเจนเหลว การผ่าตัด หรือการใช้เลเซอร์
• การตรวจคัดกรองมะเร็ง: หากคุณติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดมะเร็ง แพทย์อาจแนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองมะเร็งเป็นประจำ เช่น การตรวจ Pap smear หรือการตรวจ HPV DNA test

การป้องกันการติดเชื้อ HPV

สามารถป้องกันการติดเชื้อ HPV ได้ด้วยการฉีดวัคซีน HPV ซึ่งวัคซีนนี้มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อสายพันธุ์ HPV ที่ทำให้เกิดมะเร็งและหูดส่วนใหญ่ วัคซีน HPV ได้รับการแนะนำให้ฉีดให้กับเด็กหญิงอายุ 9-26 ปี และเด็กชายอายุ 9-21 ปี นอกจากนี้ การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HPV ได้

ข้อสำคัญ

การติดเชื้อ HPV เป็นเรื่องปกติและส่วนใหญ่มักไม่ร้ายแรง อย่างไรก็ตาม หากคุณสงสัยว่าคุณติดเชื้อ HPV หรือมีอาการใดๆ ที่อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและคำแนะนำการรักษาที่เหมาะสม การติดตามอาการและการรักษาอย่างเหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและส่งเสริมสุขภาพโดยรวมของคุณ