ทำไมน้ำตาลถึงตก

ไขปริศนา “น้ำตาลตก” : เมื่อพลังงานในร่างกายรวน

อาการน้ำตาลตก หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงต่ำกว่าระดับปกติ ส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงานที่จำเป็นต่อการทำงานของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะสมอง ซึ่งอาจนำไปสู่อาการต่างๆ เช่น วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ใจสั่น เหงื่อออก มือสั่น และในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้หมดสติได้

สาเหตุของภาวะน้ำตาลตกนั้นมีความหลากหลาย และสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายปัจจัย โดยหนึ่งในปัจจัยหลักที่พบบ่อยคือ ความไม่สมดุลระหว่างปริมาณอาหารที่รับประทาน การออกกำลังกาย และยาที่ใช้ (โดยเฉพาะในผู้ป่วยเบาหวาน) ยกตัวอย่างเช่น การอดอาหาร หรือการรับประทานอาหารไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ทำให้ร่างกายไม่มีน้ำตาลกลูโคสเพียงพอที่จะนำไปใช้เป็นพลังงาน

นอกจากนี้ การออกกำลังกายอย่างหนัก โดยที่ไม่ได้รับประทานอาหารเพิ่มเติม ก็สามารถเป็นสาเหตุให้น้ำตาลตกได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายใช้พลังงานไปมาก แต่ไม่ได้รับพลังงานทดแทนเข้ามา สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน การใช้ยาลดน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินไป หรือการฉีดอินซูลินโดยไม่ได้รับประทานอาหาร ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลตกได้

ปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลให้น้ำตาลตกได้ เช่น:

• การดื่มแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถรบกวนกระบวนการสร้างน้ำตาลกลูโคสในตับ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดื่มในขณะท้องว่าง
• โรคบางชนิด: เช่น โรคตับ โรคไต เนื้องอกในตับอ่อน และภาวะขาดฮอร์โมนบางชนิด
• การขาดสารอาหารบางชนิด: เช่น การขาดวิตามินบี1 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต
• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน: เช่น ในสตรีมีครรภ์ ระดับน้ำตาลในเลือดอาจผันผวนได้ง่าย

หากคุณมีอาการน้ำตาลตกบ่อยครั้ง หรือมีอาการรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ และทำให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้น.