ทำไมบริจาคเลือดแล้วต้องกินน้ำแดง
การบริจาคโลหิตทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ การดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอทั้งก่อนและหลังบริจาค จึงสำคัญมาก ช่วยชดเชยของเหลวที่สูญเสีย ฟื้นฟูสภาพร่างกาย และช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 500 ซีซี ก่อนบริจาค และอีกอย่างน้อย 1 ลิตร หลังบริจาค เพื่อสุขภาพที่ดีหลังการบริจาค
บริจาคเลือดแล้วทำไมต้องกินน้ำแดง
การบริจาคเลือดเป็นการให้เลือดแก่ผู้ที่ต้องการ โดยผู้บริจาคจะต้องเสียเลือดประมาณ 450 มิลลิลิตร ซึ่งทำให้ร่างกายสูญเสียของเหลวในปริมาณมาก ดังนั้นเพื่อชดเชยของเหลวที่สูญเสียไป จึงจำเป็นอย่างมากที่ผู้บริจาคจะต้องดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอทั้งก่อนและหลังบริจาค
ในอดีต ผู้บริจาคเลือดมักจะได้รับคำแนะนำให้ดื่มน้ำแดงหลังจากบริจาคเลือด เนื่องจากเชื่อว่าน้ำแดงมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กที่สูญเสียไปจากการบริจาคเลือด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าการดื่มน้ำแดงหลังบริจาคเลือดไม่ได้ช่วยเพิ่มระดับธาตุเหล็กในร่างกายอย่างมีนัยสำคัญ
ถึงแม้ว่าน้ำแดงไม่ได้มีประโยชน์ในการฟื้นฟูระดับธาตุเหล็กหลังบริจาคเลือด แต่การดื่มน้ำแดงในปริมาณน้อยๆ ก็ไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่าคือการดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้นในช่วงก่อนและหลังบริจาคเลือด น้ำเปล่าช่วยชดเชยของเหลวที่สูญเสียไป ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพได้ดีขึ้น และช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น
ดังนั้น จึงแนะนำให้ผู้บริจาคเลือดปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้:
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 500 มิลลิลิตร ก่อนบริจาคเลือด
- ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 1 ลิตร หลังบริจาคเลือด
- หากต้องการดื่มน้ำแดง ให้ดื่มในปริมาณน้อยๆ และดื่มน้ำเปล่าเพิ่มเติมด้วย
- หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
ข้อเสนอแนะสำหรับคำตอบ:
ขอบคุณที่ให้ข้อเสนอแนะ! ข้อเสนอแนะของคุณมีความสำคัญต่อการปรับปรุงคำตอบในอนาคต