ทำไมออกกำลังกายแล้วจุก

2 การดู

ก่อนออกกำลังกาย ควรวอร์มอัปร่างกาย 5-10 นาที และเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ก่อนค่อยๆ เพิ่มความหนัก หายใจลึกๆ ยาวๆ สม่ำเสมอ อย่ากลั้นหายใจ และหลังออกกำลังกายควรคูลดาวน์เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ ป้องกันอาการจุกเสียดได้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

ทำไมออกกำลังกายแล้วจุก

การออกกำลังกายเป็นกิจกรรมที่ดีต่อสุขภาพ แต่บางครั้งอาจทำให้เกิดอาการจุกได้ อาการจุกเป็นความรู้สึกไม่สบายบริเวณท้องที่เกิดขึ้นได้ทั้งในระหว่างและหลังออกกำลังกาย

สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการจุกขณะออกกำลังกาย ได้แก่

  • การหายใจไม่ถูกต้อง: การกลั้นหายใจหรือหายใจตื้นเกินไปขณะออกกำลังกายอาจทำให้ปอดขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ไดอะแฟรม (กล้ามเนื้อกะบังลม) เกร็งตัวมากเกินไปและทำให้เกิดอาการจุก
  • ออกกำลังกายหนักเกินไปหรือเร็วเกินไป: การเริ่มออกกำลังกายที่หนักหรือเร็วเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากไม่ได้ออกกำลังกายมาเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ทำให้เกิดอาการจุก
  • รับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย: การรับประทานอาหารหนักหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีคาร์โบเนตก่อนออกกำลังกายอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ ซึ่งสามารถนำไปสู่การจุกได้
  • ภาวะกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารอ่อนแอ: ภาวะกล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารอ่อนแอเป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหูรูดบริเวณปลายหลอดอาหารทำงานได้ไม่ดี ทำให้กรดและอาหารไหลย้อนกลับเข้าไปในหลอดอาหารและทำให้เกิดอาการจุกได้

เพื่อป้องกันการจุกขณะออกกำลังกาย มีคำแนะนำดังนี้

  • วอร์มอัปและคูลดาวน์อย่างเหมาะสม: เริ่มออกกำลังกายเบาๆ ก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความหนัก และควรคูลดาวน์หลังออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพ
  • หายใจให้ถูกต้อง: หายใจลึกๆ และสม่ำเสมอขณะออกกำลังกาย อย่ากลั้นหายใจ
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมื้อใหญ่ก่อนออกกำลังกาย: หากจำเป็น ให้รับประทานอาหารเบาๆ หรือเครื่องดื่มที่มีคาร์โบเนตในปริมาณเล็กน้อยก่อนออกกำลังกาย
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: การดื่มน้ำช่วยป้องกันการขาดน้ำและช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกกำลังกายด้วยความเร็วและความหนักที่เหมาะสม: ค่อยๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายในช่วงเวลา และหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเกินไป

หากคุณมีอาการจุกขณะออกกำลังกาย ให้หยุดพักและพักหายใจ หากอาการไม่ดีขึ้น ให้หยุดออกกำลังกายและปรึกษาแพทย์