ทำไมไม่ควรดื่มกาแฟหลังอาหาร

8 การดู

การดื่มกาแฟหลังอาหาร อาจส่งผลเสียต่อการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็ก เพราะคาเฟอีนกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกมากขึ้น และยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ระหว่างการรับประทานอาหารและดื่มกาแฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมสารอาหารเหล่านี้

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

กาแฟหลังอาหาร…ดีหรือร้าย? เผยผลเสียต่อสุขภาพที่คุณควรรู้

กาแฟ… เครื่องดื่มคู่ใจของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าเพื่อเรียกความสดใส หรือช่วงบ่ายเพื่อคลายความง่วงเหงา แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่าการดื่มกาแฟหลังอาหาร อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้มากกว่าที่คิด

ผลเสียของการดื่มกาแฟหลังอาหาร

  • รบกวนการดูดซึมแคลเซียม: คาเฟอีนในกาแฟกระตุ้นให้ไตขับแคลเซียมออกมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพ เช่น โรคกระดูกพรุน
  • ยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็ก: คาเฟอีนมีฤทธิ์ยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่มีธาตุเหล็กจากพืช เช่น ผักใบเขียว การขาดธาตุเหล็กอาจส่งผลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง และทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย
  • รบกวนระบบย่อยอาหาร: กาแฟกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และอาการแสบร้อนกลางอก
  • เพิ่มความเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน: การดื่มกาแฟหลังอาหารอาจทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น เนื่องจากคาเฟอีนอาจกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดของหลอดอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร

วิธีแก้ไข

  • เว้นระยะเวลา: ควรเว้นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง ระหว่างการรับประทานอาหารและดื่มกาแฟ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาในการดูดซึมสารอาหารอย่างเต็มที่
  • เลือกดื่มกาแฟดำ: กาแฟดำไม่มีน้ำตาล และคาเฟอีนในกาแฟดำมีน้อยกว่ากาแฟชนิดอื่นๆ
  • ดื่มกาแฟหลังอาหารเช้า: การดื่มกาแฟหลังอาหารเช้า จะช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และไม่ส่งผลเสียต่อการดูดซึมสารอาหาร

ข้อควรระวัง

  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ควรเลี่ยงการดื่มกาแฟหลังอาหาร
  • ผู้ที่มีอาการแพ้คาเฟอีน ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟโดยสิ้นเชิง

คำแนะนำ

การดื่มกาแฟในปริมาณที่พอเหมาะ และเว้นระยะเวลาหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย 2 ชั่วโมง จะช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพของคุณ และทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติของกาแฟได้อย่างเต็มที่