ทําไมซอกเหงือกถึงมีสีดํา

4 การดู

สีดำที่ซอกฟันอาจเกิดจากการสะสมของสารสีจากชา กาแฟ หรือบุหรี่ ลองแปรงฟันอย่างละเอียดและใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ หากยังคงมีสีดำอยู่ ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุอื่นๆ เช่น การอักเสบของเหงือก หรือปัญหาเกี่ยวกับฟัน อย่าเพิกเฉยเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เคล็ดลับสีดำมิดชิดที่ซอกเหงือก: มากกว่าแค่คราบกาแฟ

ซอกเหงือกดำคล้ำ… เป็นปัญหาที่หลายคนอาจมองข้าม แต่ความจริงแล้วมันอาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพช่องปากที่มากกว่าแค่คราบกาแฟหรือชาที่ติดแน่น บทความนี้จะพาไปเจาะลึกสาเหตุที่แท้จริงของความดำคล้ำนี้ และวิธีการรับมืออย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพช่องปากที่สดใสไร้กังวล

ใช่แล้ว คราบสีจากเครื่องดื่มอย่างกาแฟ ชา หรือการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ซอกเหงือกดูดำ สารสีเหล่านี้สามารถเกาะติดแน่นบริเวณรอยต่อระหว่างฟันและเหงือกได้ง่าย การแปรงฟันอย่างถูกวิธีและการใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำอย่างน้อยวันละสองครั้ง จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและขจัดคราบเหล่านี้ การใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่มและการแปรงอย่างนุ่มนวลแต่ทั่วถึงจะช่วยลดการระคายเคืองเหงือกและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด

แต่หากความดำคล้ำยังคงอยู่ แม้จะดูแลความสะอาดอย่างดีแล้ว เราควรตระหนักว่าอาจมีสาเหตุอื่นที่ซ่อนอยู่ เช่น:

  • การอักเสบของเหงือก (Gingivitis): การสะสมของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดคราบจุลินทรีย์ (Plaque) และหินปูน จะทำให้เหงือกอักเสบ บวม แดง และอาจมีเลือดออกง่าย เมื่ออักเสบเรื้อรัง บริเวณเหงือกอาจเปลี่ยนสีคล้ำลงได้ การรักษาจะเน้นที่การทำความสะอาดคราบจุลินทรีย์อย่างเข้มข้น และอาจต้องใช้ยาฆ่าเชื้อเพื่อควบคุมการอักเสบ

  • โรคปริทันต์ (Periodontitis): เป็นโรคเหงือกที่รุนแรงกว่า Gingivitis ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบและทำลายเนื้อเยื่อที่รองรับฟัน ส่งผลให้เหงือกหดตัว เผยให้เห็นรากฟันและอาจเปลี่ยนสีเป็นสีดำคล้ำ การรักษาอาจต้องอาศัยการขูดหินปูน การรักษาด้วยยา หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดในกรณีที่รุนแรง

  • เม็ดสีสะสมในเหงือก (Melanin pigmentation): บางคนอาจมีเม็ดสีเมลานินสะสมในเหงือกมากเป็นพิเศษ ทำให้เหงือกดูคล้ำกว่าปกติ โดยทั่วไปแล้ว นี่ไม่ใช่สัญญาณของโรค แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อยืนยัน

  • การใช้ยาบางชนิด: บางชนิดของยาอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสีเหงือกได้

อย่ามองข้ามสัญญาณเตือน! หากสังเกตเห็นความดำคล้ำที่ซอกเหงือก ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาอย่างทันท่วงที จะช่วยรักษาสุขภาพช่องปากให้แข็งแรง และป้องกันปัญหาที่อาจร้ายแรงในอนาคตได้

สุขภาพช่องปากที่ดี คือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับสุขภาพโดยรวม อย่ารอให้ปัญหาลุกลาม ดูแลตัวเองและไปพบแพทย์หรือทันตแพทย์เป็นประจำ เพื่อยิ้มได้อย่างมั่นใจและสดใสตลอดไป