ทําไมถึงฉี่ตอนหลับไม่รู้ตัว

0 การดู

การปัสสาวะรดที่นอนในผู้ใหญ่ อาจเกิดจากพฤติกรรมการดื่มน้ำมากก่อนนอน หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ควรสังเกตความถี่และปริมาณปัสสาวะที่รั่วไหล หากเกิดบ่อยครั้ง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำก็ช่วยลดปัญหาได้เช่นกัน

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

เมื่อคืน…ทำไมถึง “ฉี่รดที่นอน” โดยไม่รู้ตัว? เรื่องที่ผู้ใหญ่ควรรู้

การตื่นเช้ามาพบว่าที่นอนเปียกชื้นด้วยปัสสาวะ เป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์สำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ใหญ่ หลายคนอาจรู้สึกอับอาย กังวล และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของเรา ทำไมเราถึง “ฉี่รดที่นอน” โดยไม่รู้ตัว?

แม้ว่าการปัสสาวะรดที่นอน หรือ “Bedwetting” จะเป็นเรื่องปกติในเด็กเล็ก แต่ในผู้ใหญ่ ปัญหานี้อาจบ่งบอกถึงความผิดปกติบางอย่างที่ควรได้รับการใส่ใจ บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจสาเหตุที่เป็นไปได้ รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

สาเหตุที่เป็นไปได้: ไม่ใช่แค่ “ดื่มน้ำเยอะก่อนนอน”

แม้ว่าการดื่มน้ำมากเกินไปก่อนนอนจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบบ่อย และควรเป็นสิ่งแรกที่เราพิจารณา แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเป็นต้นเหตุของอาการ “ฉี่รดที่นอน” ในผู้ใหญ่:

  • ปัญหาทางกายภาพ:

    • กระเพาะปัสสาวะทำงานผิดปกติ: กระเพาะปัสสาวะอาจมีความจุที่จำกัด ไวต่อการกระตุ้น หรือมีปัญหาในการควบคุมการบีบตัว
    • ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน: ฮอร์โมน Anti-diuretic hormone (ADH) มีบทบาทสำคัญในการลดการผลิตปัสสาวะในเวลากลางคืน หากร่างกายผลิต ADH ได้ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการปัสสาวะมากเกินไปในตอนกลางคืน
    • โรคประจำตัว: โรคเบาหวาน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท โรคไต หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการปัสสาวะรดที่นอนได้
    • ต่อมลูกหมากโต (ในผู้ชาย): ต่อมลูกหมากที่ขยายใหญ่ขึ้นสามารถกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะเล็ดได้
  • ยาบางชนิด: อย่างที่กล่าวมา ยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น นอกจากนี้ ยาอื่นๆ เช่น ยานอนหลับบางประเภท ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ซึมเศร้า ก็อาจส่งผลต่อการควบคุมการปัสสาวะได้

  • การติดเชื้อ: การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) สามารถทำให้เกิดความรู้สึกอยากปัสสาวะบ่อย และอาจนำไปสู่การปัสสาวะรดที่นอนได้

  • ปัญหาทางจิตใจ: ความเครียด ความวิตกกังวล หรือภาวะซึมเศร้า อาจส่งผลต่อการควบคุมการปัสสาวะ

สิ่งที่ควรสังเกต และเมื่อไหร่ที่ควรปรึกษาแพทย์:

นอกจากการสังเกตปริมาณน้ำที่ดื่มก่อนนอน และผลกระทบจากยาที่รับประทานแล้ว สิ่งที่ควรสังเกตเพิ่มเติมคือ:

  • ความถี่: คุณปัสสาวะรดที่นอนบ่อยแค่ไหน? เป็นทุกคืน ทุกสัปดาห์ หรือนานๆ ครั้ง?
  • ปริมาณ: ปัสสาวะที่รั่วไหลออกมามีปริมาณมากน้อยแค่ไหน?
  • อาการอื่นๆ: มีอาการปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด ปวดท้องน้อย หรืออาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่?

หากคุณพบว่าตัวเองปัสสาวะรดที่นอนบ่อยครั้ง หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย สิ่งสำคัญคือการปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสม การวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น:

ก่อนที่จะไปพบแพทย์ คุณสามารถลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างเพื่อลดโอกาสในการปัสสาวะรดที่นอนได้:

  • จำกัดปริมาณของเหลว: ลดการดื่มน้ำ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน
  • ปัสสาวะก่อนนอน: เข้าห้องน้ำเพื่อปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน
  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ: งดเว้นอาหารรสจัด เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • ฝึกการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel Exercises): การบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่ควบคุมการปัสสาวะ

สรุป:

การปัสสาวะรดที่นอนในผู้ใหญ่ไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย และสามารถแก้ไขได้ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง และปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างก็สามารถช่วยลดปัญหาได้เช่นกัน อย่าปล่อยให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของคุณ เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อการนอนหลับที่สบายและไร้กังวล