น้ำมูกใกล้หายจะเป็นสีอะไร

สีน้ำมูกบอกอะไร: สัญญาณแห่งการฟื้นตัว

อาการหวัดเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะเป็นอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จาม หรือไอ อาการเหล่านี้ล้วนสร้างความรำคาญและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก แต่เมื่ออาการหวัดเริ่มดีขึ้น สีของน้ำมูกก็สามารถบอกถึงสัญญาณแห่งการฟื้นตัวได้

โดยทั่วไป เมื่อเราเป็นหวัด น้ำมูกมักจะเริ่มจากสีใสๆ เหลวๆ หลังจากนั้นอาจข้นขึ้นและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หรือเขียว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังต่อสู้กับเชื้อโรคและมีเม็ดเลือดขาวจำนวนมากกำลังทำงานในบริเวณนั้น แต่เมื่ออาการหวัดเริ่มทุเลาลง สีของน้ำมูกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

น้ำมูกสีเหลืองอ่อนใสปนขาว เป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว สีนี้บ่งบอกว่าระบบภูมิคุ้มกันของเรากำลังทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปริมาณน้ำมูกจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความข้นหนืดก็จะน้อยลง ทำให้รู้สึกโล่งจมูกมากขึ้น อาการอื่นๆ ที่เคยเป็น เช่น จาม คัดจมูก หรือไอ ก็จะค่อยๆ เบาบางลงตามไปด้วย

ทำไมถึงเป็นสีเหลืองอ่อนใสปนขาว? สีเหลืองอ่อนมาจากเม็ดเลือดขาวที่เริ่มลดจำนวนลงและถูกขับออกมาจากร่างกาย ส่วนสีขาวใสบ่งบอกถึงปริมาณน้ำมูกที่ลดลงและความเข้มข้นของสารคัดหลั่งที่จมูกน้อยลง

สิ่งที่ควรทำเมื่อน้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนใสปนขาว:

• พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเต็มที่จะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วยิ่งขึ้น
• ดื่มน้ำเยอะๆ: การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้นและลดความข้นหนืดของน้ำมูก
• ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ: การล้างจมูกจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคที่อาจหลงเหลืออยู่
• หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นอาการแพ้: หากมีอาการแพ้ร่วมด้วย ควรหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ

ถึงแม้น้ำมูกสีเหลืองอ่อนใสปนขาวจะเป็นสัญญาณที่ดีว่าอาการหวัดกำลังจะหาย แต่ก็ควรดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องจนกว่าอาการจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ หรือการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

ข้อควรระวัง: หากน้ำมูกยังคงมีสีเขียวเข้ม หรือเหลืองข้น ปริมาณมาก และมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดศีรษะรุนแรง มีไข้สูง หรือเจ็บหน้าผาก อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรีย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม