น้ำเหลืองออกจากจมูกเกิดจากอะไร

3 การดู

น้ำมูกสีเหลือง อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสในทางเดินหายใจส่วนบน ร่างกายจึงส่งเม็ดเลือดขาวมาจัดการเชื้อโรค หากอาการไม่ดีขึ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม

ข้อเสนอแนะ 0 การถูกใจ

น้ำเหลืองไหลจากจมูก: สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

น้ำมูกสีเหลืองเขียว มักเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้บ่อย โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของอากาศ หรือระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ แต่ความจริงแล้ว สีของน้ำมูกนั้นสามารถบ่งบอกถึงสาเหตุของอาการได้ น้ำมูกสีเหลืองที่ไหลออกมาจากจมูก อาจไม่ได้เกิดจากเพียงแค่หวัดธรรมดาเสมอไป เราจึงควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ เพื่อดูแลสุขภาพได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที

น้ำมูกสีเหลืองส่วนใหญ่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อ เมื่อร่างกายสัมผัสกับเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย หรือไวรัส ระบบภูมิคุ้มกันจะส่งเม็ดเลือดขาวเข้ามาต่อสู้กับเชื้อเหล่านั้น เม็ดเลือดขาวเหล่านี้มีสีเหลืองและสีเขียว ทำให้สีของน้ำมูกเปลี่ยนไป นอกจากนี้ การสะสมของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ตายแล้ว เศษซากเซลล์ และหนอง ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลือง

สาเหตุที่อาจทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลืองได้แก่:

  • การติดเชื้อแบคทีเรียในทางเดินหายใจส่วนบน: นี่เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด การติดเชื้อแบคทีเรียอาจทำให้เกิดอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ และอาจมีน้ำมูกข้นเหนียวสีเหลืองเขียว
  • การติดเชื้อไวรัส: แม้ว่าหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่จะเกิดจากไวรัส และน้ำมูกอาจเริ่มจากใสก่อนเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือเขียวในภายหลัง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการอักเสบและการต่อสู้ของระบบภูมิคุ้มกันกับเชื้อไวรัส
  • ไซนัสอักเสบ: การอักเสบของโพรงไซนัสอาจทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลืองหรือเขียวหนืด พร้อมกับอาการปวดศีรษะ ปวดใบหน้า และความรู้สึกอึดอัดในบริเวณไซนัส
  • ภูมิแพ้: แม้จะไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่การแพ้สารก่อภูมิแพ้บางชนิด อาจทำให้เยื่อบุจมูกอักเสบ ซึ่งสามารถนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนได้ ส่งผลให้เกิดน้ำมูกสีเหลือง
  • โรคภูมิแพ้เรื้อรัง: ในผู้ที่มีโรคภูมิแพ้เรื้อรัง เยื่อบุจมูกอาจอักเสบอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและน้ำมูกสีเหลืองได้ง่าย
  • การใช้ยาบางชนิด: ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดน้ำมูกสีเหลือง

เมื่อใดควรพบแพทย์:

ถึงแม้ว่าน้ำมูกสีเหลืองมักจะหายไปเองได้ภายในไม่กี่วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง หายใจลำบาก หรือมีเลือดปนในน้ำมูก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจทำการตรวจร่างกาย ตรวจเลือด หรือการตรวจอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและวางแผนการรักษาที่ได้ผล

การสังเกตสีของน้ำมูกเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการประเมินอาการ การดูแลสุขภาพที่ดี เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากมีอาการผิดปกติ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณ